พะเยา 18 มี.ค. – “วราวุธ” เผยยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม.จากพรรคเพื่อไทย ย้ำยังทำงานเต็มที่ ไม่เกี่ยงกระทรวงไหน มองนายกฯ เศรษฐา ดึง “ทักษิณ” ร่วมลงพื้นที่เป็นเรื่องดี-เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ที่หน่วยพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาปางปูเลาะ อ.แม่ใจ จ.พะเยา ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางพรรค ชพท. มีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ว่า ชพท. ยังไม่ได้รับสัญญาณแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการปรับ ครม. เพียงแต่ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาจากพรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างไรก็ตาม พรรค ชทพ. ยังเป็นรัฐบาลอยู่ แต่เชื่อว่าในอนาคต แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคงจะมีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม. ได้มองกระทรวงอื่นไว้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนพูดเสมอว่าการทำงานของตนเอง ไม่เคยเอาประเด็นการปรับ ครม. มาเป็นอุปสรรค วันนี้ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. และก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ ไม่ว่าอยู่ที่ใด ศักยภาพของคนที่เป็นรัฐมนตรี คือการบริหารจัดการ นำองค์ความรู้มาพัฒนาองค์กร ดังนั้นจะไม่เสียเวลามานั่งกังวล ว่าจะต้องไปที่ใด หรือสถานะใด ตราบใดที่ยังเป็นรัฐมนตรี ยังได้รับเดินจากภาษีจากประชาชน ก็จะทำทุกวินาทีให้คุ้มค่า
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าพรรค ชพท. ไม่เกี่ยงว่าต้องเป็นกระทรวงใดใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยง แต่วันนี้เราได้รับมอบหมายให้ดูกระทรวง พม. ก็ทำให้เต็มที่ เมื่อถึงเวลาเจรจาปรับ ครม.คงจะมาพูดคุยอีกครั้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ร่วมทานข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าใครคือนายกฯ ตัวจริง ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมองไว้อย่างไร ว่า เป็นสิ่งที่ดีที่มีผู้ใหญ่มีศักยภาพในหลายมิติมาช่วยทำงาน แน่นอนว่าการเป็นนายกฯ ไม่ได้แปลว่าจะต้องรู้ทุกเรื่อง การมีที่ปรึกษาเป็นอดีตนายกฯ เคยทำงานระดับนานาชาติ มาให้คำปรึกษานั้นเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งนายกฯ มีที่ปรึกษาเยอะ พบปะผู้คนเยอะ จะเป็นประโยชน์กับการทำงานของรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเศรษฐา ระบุว่าอาจจะพานายทักษิณ ลงพื้นที่ร่วมกัน มองว่าจะกลายเป็นกระแสลบลบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า มองได้หลายมุม หากฝ่ายที่คิดจะโจมตีก็มองว่าเป็นเรื่องไม่ดี แต่ในมุมพรรคร่วมฯ เรามองว่า 2 หัวดีกว่าหัวเดียว การทำงานร่วมกันและได้ความคิดของสองคนมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา หรือตำแหน่งอะไรก็ตาม ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน. -719-สำนักข่าวไทย