ส่งศาลฝากขัง “นาย” ฆ่าโหดสาวเมียนมา

นครศรีธรรมราช 14 มี.ค. – คุมตัวส่งศาลฝากขัง “นาย” อดีตแฟนหนุ่มฆ่า “น้องสา” สาวเมียนมา หมกศพในบ่อน้ำร้างหลังกุฏิวัด เจ้าตัวเผยรักมาก แต่พลั้งมือฆ่า ด้านนักข่าวได้ข้อมูลเพิ่ม วันเกิดเหตุ “นาย” ถูกมีดบาดมือ แต่ไปอ้างกับหมอว่าสับไก่พลาด


พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำตัวนายพิทญา หรือ นาย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาฆ่าแทงคอ “น้องสา” สาวเมียนมาวัย 35 ปี ก่อนทิ้งอำพรางศพในบ่อน้ำกุฏิร้างวัดท้าวโคตร ซึ่งตอนที่พาตัวออกจากห้องควบคุม เพื่อส่งศาลฝากขัง ผู้ต้องหาหน้าตาอ่อนล้า อิดโรย แต่เมื่อถูกนักข่าวถามถึงสาเหตุที่ต้องฆ่าน้องสา โดยบอกให้ตอบเป็นครั้งสุดท้ายแบบจริงใจ รวมถึงถามเรื่องความรักระหว่าง นายกับสา ว่าเป็นยังไงบ้างก่อนที่สาจะถูกฆ่า และอยากไปขอขมาศพสาหรือไม่ นายตอบว่ารักมาก รักตลอดไป แต่พลั้งมือฆ่า

อย่างไรก็ตาม แม้นายจะพูดถึงสามากมาย แต่เมื่อถูกถามเรื่องทอง 3 บาทที่ขโมยไปขาย เอาไปให้ใคร หรือเอาไปไว้ไหน นายไม่ยอมปริปากพูด เช่นเดียวกับมือถือของสา 2 เครื่อง ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครหาเจอ นายก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ไหน แม้นักข่าวจะถามย้ำหลายรอบ ยิ่งไปกว่านั้น นักข่าวไปสืบหาข้อมูลเรื่องแผลที่มือของนาย ตามที่นายกล่าวอ้าง ว่าสาใช้ฟันเขาก่อน ทำให้ทราบว่า นายได้ไปหาหมอเพื่อรักษาบาดแผลที่นิ้วชี้ขวาจริง โดยผลมีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร แต่ตอนยื่นบัตรเป็นเวลา 01.50 น. และตอนเจ้าหน้าที่ซักประวัติ นายอ้างว่า ไปสับไก่ทำกับข้าวช่วงเย็น ทำให้มีดบาดมือ แต่ที่มาพบแพทย์ช้า เพราะเลือดไหลไม่หยุด ซึ่งแพทย์ได้เย็บแผลให้ 5 เข็ม ก่อนให้กลับบ้านไป


หากดูจากช่วงเวลาดังกล่าว คาดว่าเหตุฆาตกรรมสาอาจเกิดขึ้นช่วง 1-3 ทุ่ม ของวันที่ 4 มีนาคม และเมื่อเห็นบริเวณบ้านที่เป็นพื้นที่ตลาดปลอดคน นายจึงแบกศพของสาไปทิ้งบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากที่บ้านที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ก่อนจะแวะโรงพยาบาลในช่วงเกือบตี 2 และนำทองของสาไปขาย และหนีไปซ่อนตัว

ส่วนศพของสา ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่วัดบุญนารอบ ตำบลในเมือง ได้มีพิธีฌาปนกิจศพของสาแล้ว โดยมีบรรดาเพื่อนๆ ชาวเมียนมา เพื่อนร่วมงานชาวไทย และญาติๆ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายชัย น้าของสา โต้คำให้การของนาย ที่บอกว่า สายังไม่เลิกกับนาย ยังไปมาหาสู่กัน โดยน้ายืนยันว่า สาเลิกกับนายไปหลายเดือนแล้ว ที่นายพูดโกหก ทั้งนี้เชื่อว่าที่สาไปหานาย น่าจะไปทวงเงินที่ครอบครัวของนายติดค้างอยู่ วันนี้ยังทำใจไม่ได้ ที่สาต้องมาจบชีวิตแบบนี้ เพราะสาเป็นคนขยัน สู้ชีวิต พ่อแม่เสียหมดเหลือแต่ยายที่อยู่เมียนมา สาก็ส่งเงินไปให้ตลอด ยืนยันตรงนี้ ไม่อยากให้นายมาขอขมาศพ และไม่ขอรับคำขอโทษใดๆ


นักข่าวยังไปถามเพื่อนๆ ของน้องสาด้วยว่า เหตุการณ์นี้อยากให้ศาลมีคำตัดสินยังไงบ้างกับนาย ทุกคนต่างบอกว่า อยากให้นายได้รับโทษสูงสุด คือประหารชีวิต รวมถึงไม่เชื่อว่านายจะลงมือก่อเหตุคนเดียว เพราะตัวเล็กกว่าสามาก ไม่น่ายกศพไปทิ้งบ่อน้ำเพียงลำพังได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองดังหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล ราคารวม 1 ล้านบาท ผ่านมา 8 ปี เอะใจนำทองไปเผา สุดท้ายเป็นเพียงพลาสติก

ทวงหนี้โหด

มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหดยิงดับต่อหน้าลูก

ยอมมอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหด บุกถึงห้องยิงดับต่อหน้าลูกชาย หนีจับแม่ค้าเป็นตัวประกัน ตำรวจพาแม่และญาติเกลี้ยกล่อมสำเร็จ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม

ข่าวแนะนำ

เสด็จเยือนภูฏาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

ยกย่องมรดกไทย

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย “สมุดไทยคำหลวง – พระเจ้าช้างเผือก – เอกสารอาเซียน” เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568 ตอกย้ำบทบาทสำคัญของชาติไทยในประวัติศาสตร์โลก

อุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ตำรวจไล่ล่าพรานป่าสาละวิน ฆ่าชาวบ้านแล้ว 2 ราย

เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งไล่ล่าตัวพรานป่าสาละวิน ที่แม่ฮ่องสอน ก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไปแล้ว 2 ราย พร้อมเสริมกำลังรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้าน เพราะผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนและเหลือกระสุนอยู่เกือบสิบนัด หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วครอบครัวของพรานป่ารายนี้แจ้งความกับตำรวจว่าหายตัวไปหลังเข้าไปหาของป่า จนกระทั่งพบว่าลงมือก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไป 2 ศพ กลายเป็นบุคคลอันตราย และพบประวัติใช้สารเสพติด