สุรินทร์ 18 ม.ค. – ยายวัย 76 ปี เหลือรุ่นเดียวในหมู่บ้าน ที่อนุรักษ์ภูมิปัญญาเลี้ยงไหมมัดหมี่ และผ้าไหมทอมือขายราคาถูก ดักแด้ที่ได้แบ่งลูกหลานญาติพี่น้อง ถ้าเหลือค่อยขายสร้ายรายได้
ยายสำริด สารเพ็ชร อายุ 76 ปี อยู่ที่บ้านตราด ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการเลี้ยงไหมมัดหมี่ ทอผ้าไหม และต้นหม่อนที่ปลูกเองในสวนข้างบ้านกว่า 30 ต้น โดยมีลูกศิษย์มาเรียนมัดหมี่ เรียนทอผ้าไหมหลายรุ่น
ปัจจุบันแม้ยายสำริด สารเพ็ชร อายุ 76 ปีแล้ว แต่ก็ยังเลี้ยงไหม มัดหมี่ และทอผ้าไหมขาย ไหมที่สาวเสร็จใหม่ๆ เอาตากแดดก่อนแปรรูปมัดหมี่ และทอด้วยมือ หลังจากสลัดดักแด้จะแบ่งลูกหลานญาติพี่น้องไว้กินแล้ว ถ้าเหลือจึงจะขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน ยายเรียนรู้การเลี้ยงไหมมัดหมี่ ทอผ้าไหม ย้อมไหมสีธรรมชาติจากคุณแม่และยาย จึงทำให้ผ้าไหมทุกชิ้นมีความสวยงาม ประณีต เชื่อว่าผ้าไหมจะเน้นให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพดี และมีโชคลาภ
หลายปีที่ผ่านมา ยายและญาติๆ พร้อมด้วยชาวบ้านในหมู่บ้านตราด ช่วยกันเลี้ยงไหมมัดหมี่ ทอผ้าไหม แต่ว่าด้วยสภาพร่างกายนั่งนานไม่ได้ ทำให้ตอนนี้ในหมู่บ้านตราดเหลือยายคนเดียวที่ยังอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้าน เลี้ยงไหมมัดหมี่ และทอผ้าไหมด้วยมือ เมื่อก่อนทอผ้าไหมได้วันละ 40 ผืน แต่ทุกวันนี้ได้ไม่กี่ผืน ถ้าเหนื่อยก็พัก หายแล้วก็มาสาวไหม มัดหมี่ ทอผ้าไหมต่อ เพราะอยู่เฉยๆ ก็เหงา
ผ้าไหมลายประยุกต์ ขายประมาณ 1,000-2,000 บาท ให้ลูกชายช่วยขาย และนำไปส่งที่ร้านขายผ้าไหมที่เมืองสุรินทร์ บางทีลูกค้ารู้จักบ้านก็มาเลือกซื้อถึงบ้าน รวมถึงขายตลาดออนไลน์ด้วย . – สำนักข่าวไทย
