บุรีรัมย์ 5 ม.ค.- หญิงวัย 60 ปีที่จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องทนายช่วย หลังถูกแก๊งเต็นท์รถใช้กลโกง ฮุบโฉนดแถมแจ้งจับรีดเงิน 5 แสนซ้ำโดน จนท.ที่ดินขู่ไม่รีบเคลียร์ระวังติดคุก
นางวรรณี อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี พร้อมลูกสาวและลูกเขย เดินทางข้ามจังหวัด นำเอกสารหลักฐานบุกร้องขอความช่วยเหลือกับนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ โดยนางวรรณี ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงปี 2559 ได้นำโฉนดที่ดินไปยื่นค้ำประกันในการซื้อรถหกล้อมือสองที่เต็นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ในราคา 450,000 บาท แต่พอทางเต็นท์ตรวจเช็กแล้วแจ้งว่าโฉนดของตนเองติดครุฑแดง ยังไม่สามารถโอนได้จึงบอกให้ลูกเขยไปหาโฉนดที่ดินฉบับอื่นมาค้ำประกันแทน
กระทั่งลูกเขยไปเอาโฉนดของแม่เขาเองมายื่นค้ำประกัน พอเซ็นเอกสารซื้อขายรถเรียบร้อย ก็ได้ขอโฉนดฉบับแรกที่ทางเต็นท์แจ้งว่าติดครุฑแดงคืน แต่ทางเต็นท์กลับบอกว่าเดี๋ยวแนบโชว์ให้ไฟแนนซ์ดูก่อนแล้วจะคืนให้ กระทั่งทำเรื่องซื้อขายรถเรียบร้อยทางเต็นท์ก็ยังไม่คืนให้ ทั้งลูกสาวและลูกเขยก็พยายามมาสอบถามเรื่อยๆ แต่ทางเต็นท์ก็อ้างว่าพนักงานไม่อยู่บ้าง ย้ายออฟฟิตใหม่บ้าง ยังหาไม่เจอบ้าง บ่ายเบี่ยงตลอด กระทั่งผ่อนชำระงวดรถหกล้อเสร็จเรียบร้อยก็ยังไม่ยอมคืนโฉนดให้
ต่อมาในเดือน ก.ย.2566 ไปสอบถามที่เต็นท์รถอีกครั้ง พนักงานก็แจ้งว่าโฉนดหาย บอกให้ไปแจ้งหายเลย จากนั้นนางวรรณี จึงได้ไปแจ้งความว่าโฉนดหายที่ สภ.บ้านดุง แล้วนำไปยื่นที่สำนักงานที่ดินทุ่งฝน ผ่านไป 3 เดือนไม่มีคนคัดค้าน สนง.ที่ดินจึงออกโฉนดฉบับใหม่ (ใบแทน) ให้ แต่จู่ๆ กลับถูกตัวแทนเต็นท์รถไปแจ้งความกล่าวหาว่านางวรรณี แจ้งความเท็จว่าโฉนดไม่ได้หาย พร้อมขู่รีดเงิน 500,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าตกใจ แต่พอตนไปทำเรื่องที่สำนักงานที่ดินก็มีผู้บริหารที่ดินคนหนึ่งพูดในทำนองข่มขู่ว่า ให้รีบหาเงินไปเคลียร์ให้ทางเต็นท์ไม่งั้นจะติดคุก โดยกล่าวหาว่าลูกของตนไปกู้ยืมเงินเขามา 3 แสน ทั้งที่ไม่มีใครไปกู้เงินตามที่เขาอ้างเลย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกยัดเยียดข้อหา จึงได้เดินทางข้ามจังหวัดมาร้องขอให้ทนายอั๋น ช่วยเหลือ
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีที่หญิงคนดังกล่าวมาร้องขอความช่วยเหลือ คือ แก๊งเต็นท์รถที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายมากกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท และคดียังอยู่ในกระบวนการศาล แต่ยังไม่มีความสำนึกยังมีพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเคสที่มาร้องเรียนครั้งนี้มีเจตนาชัดเจน เพราะนอกจากจะใช้กลโกงหวังฮุบโฉนดที่ดินผู้เสียหายแล้ว ยังไปแจ้งความเอาผิดและขู่รีดเงิน 5 แสนบาท อ้างเป็นค่าตกใจ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ที่ดินใช้วาจาในลักษณะข่มขู่ผู้เสียหาย ทำนองว่าถ้าไม่อยากติดคุกให้รีบหาเงินไปเคลียร์ให้กับเต็นท์รถ ยืนยันว่าจะดำเนินการจนถึงที่สุด และพร้อมจะเดินหน้าทวงความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายต่อไป .-สำนักข่าวไทย