สมุทปราการ 4 ม.ค. – เปิดนาทีระทึก ทาวน์เฮาส์ที่สมุทรปราการ ทรุดกลางดึก ดึงบ้านที่อยู่ติดกันถล่ม 4 หลัง เจ้าของบ้านหลังแรกที่ทรุด เผยได้ยินเสียงปูนลั่น ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้หนี
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงทุ่มครึ่งของเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.67) บ้านทาวน์เฮาส์ทรุดตัว ภายในหมู่บ้าน ซอยประชาอุทิศ 90 อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หลังเกิดเหตุองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านคลองสวน จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเพราะเป็นพื้นที่อันตราย โดยจุดเกิดเหตุพบบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นทรุดตัวจำนวน 3 หลัง และหลังที่ 4 ทรุดตัวบางส่วน ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 50 คูหา ในซอยของหมู่บ้านแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 25 หลัง บริเวณทาวน์เฮาส์ฝั่งซ้ายมือทั้ง 4 หลังมีตัวบ้านติดกัน เกิดการทรุดตัว ด้านหลังบ้านซึ่งเป็นห้องครัวและห้องน้ำพังถล่มลงมา เศษอิฐ เศษปูน หล่นลงมากองกับพื้น บริเวณหน้าบ้านพบกำแพงบ้านและหน้าต่างแตกแยกทรุดลงจนเอนเอียงไปทางด้านหลังบ้าน ซึ่งพบว่าบ้านที่เกิดการทรุดตัวก่อนได้รับความเสียหายมากที่สุด
หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปเดินสำรวจบ้านฝั่งตรงข้าม พบว่ามีบ้านหลายหลังเกิดรอยแตกร้าวที่พื้นบ้านจนบางจุดทรุดเป็นโพรง กำแพงบ้านหลายจุดมีรอยร้าว ซึ่งชาวบ้านบอกว่า เป็นแบบนี้มานานหลายปีแล้ว บ้านมันทรุดลงเรื่อยๆ แต่ยังไม่ถึงกับพังลงมา แต่พอฝั่งตรงข้ามเกิดเหตุแล้วก็กลัวเหมือนกัน แต่ต้องทนอยู่เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน อยากให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบให้หมดทุกหลังในหมู่บ้านว่ามีหลังไหนที่อันตรายบ้าง
ฝั่งของนายธวัชชัย เจ้าของบ้านหลังแรกที่ทรุดตัว เล่าว่า บ้านนี้เป็นของพี่เขย ตนมาเฝ้าให้และอยู่อาศัยมานานกว่า 7 ปี ตอนมาอยู่แรกๆ พบว่าบ้านเริ่มเอียงแต่ไม่ถึงกับทรุดตัว แต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 65 บ้านเกิดอาการลั่น มีเสียงดังจนปูนร้าว ตนกลัวไม่ปลอดภัย เลยต้องไปเช่าบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุก็ไม่มีผู้พักอาศัย ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านได้ยินเสียงบ้านลั่นเสียงดังจึงเดินออกมาดู ก่อนที่บ้านตนจะทรุดตัวลงและบ้านอื่นๆ ก็ทรุดตามไปเรื่อยๆ หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้มีหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่มาตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ส่วนสาเหตุตนคิดว่าตอม่อน่าจะทรุดตัว เพราะหมู่บ้านนี้ก่อสร้างมานานมากกว่า 20 ปี อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูหน่อย เพราะบ้านตนยังต้องผ่อนธนาคารอยู่เหลืออีก 5 แสนบาท
ด้านนายพินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน กล่าวว่า บ้านที่ทรุดตัวได้รับความเสียหายหนักมี 3 หลัง ส่วนหลังที่ 4 เสียหายไม่มาก เมื่อคืนที่ผ่านมาทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาประเมินเบื้งต้นให้กับทาง อบต. แล้ว พบว่ายังคงมีการทรุดตัวอยู่เรื่อยๆ 20 นาทีแรกหลังเกิดเหตุทรุดลงไป 1 มิลลิเมตร ล่าสุดตอนนี้ยังคงทรุดตัวลงอยู่เรื่อยๆ บางจุดทรุดตัวลงชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ซึ่งทาง อบต. ได้ทำหนังสือให้โยธาจังหวัดเข้ามาร่วมตรวจสอบแล้ว และจะประเมินต่อว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
เบื้องต้นเยียวยาบ้านที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว หลังละ 5,000 บาท หลังจากนี้ ทาง อบต. จะตั้งคณะกรรมการการช่วยเหลือ หารือการเยียวยาตามระเบียบอย่างน้อยหลังละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ขณะนี้ ผู้ได้รับผลกระทบได้เข้ามาลงทะเบียนกับทาง อบต. แล้ว และผู้พักอาศัยก็มีที่พักโดยได้ไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องแล้ว ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านยังไม่อนุญาตให้เข้าไปนำออกมา เพราะพื้นที่ยังไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ พื้นที่นี้เดิมทีเป็นพื้นนาข้าวและบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งปกติของพื้นที่สมุทรปราการปีหนึ่งจะทรุดลง ประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนสาเหตุที่เกิดการทรุดตัวนั้นยังอยู่ระหว่าการตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัด ตอนนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังหลังอื่นๆ จากที่ดูน่าจะไม่มีการทรุดตัวจนหลังอื่นพังลงมาแล้ว เพราะหลังที่ 3 นั้น แยกขาดออกจากกันและไม่มีการดึงกันแล้ว.-สำนักข่าวไทย