ปิดโรงแรมไล่ล่าพี่ใช้ปืนตบน้องชายบาดเจ็บ

สมุทรปราการ 15 ธ.ค. – พี่ชายฉุนจัด หลังน้องชายมาทวงรถจักรยานยนต์คืนไปขับวิน ซัดกันนัวข้างทาง ก่อนพี่ชายใช้ปืนตบน้องแล้วหลบหนี ตำรวจปิดโรงแรมล้อมจับนานกว่า 1 ชม. พบก่อนเกิดเหตุเสพยามาด้วย


คลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์วินาทีที่น้องชาย (คนใส่เสื้อวิน) กับพี่ชายกำลังซัดกันนัวตรงฟุตปาธ ริมถนนเทพารักษ์ กม.4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพี่ชายพยายามชักปืนขึ้นมาด้วย ระหว่างนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามเข้าไปห้ามปราม

ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยที่ดินทอง 6 ริมถนนเทพารักษ์ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายจิรเดช อายุ 26 ปี บาดเจ็บบริเวณใบหน้าและต้นคอ จากการถูกอาวุธปืนตบเข้าที่ใบหน้า และมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายเรืองยุทธ์ อายุ 29 ปี พี่ชายของผู้บาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้วิ่งหนีเข้าไปในซอย ก่อนจะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุพบตกอยู่บนกำแพงของโรงแรม


ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ นำกำลังกว่า 30 นาย ปิดล้อมพื้นที่ และประกาศให้ผู้พักอาศัยในโรงแรมปิดล็อกประตูให้แน่นหนา ก่อนจะบุกเข้ากระชับพื้นที่ จนผู้ก่อเหตุวิ่งหนีขึ้นไปบนดาดฟ้า และจนมุมเจ้าหน้าที่ จึงจับกุมไว้ได้ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

สอบถามนายจิรเดช ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายของตน สาเหตุที่ทะเลาะกัน เนื่องจากพี่ชายยืมรถจักรยานยนต์ตนไปใช้ แล้วไม่ยอมเอามาคืน ตนจึงโทรไปทวงรถ เพราะต้องนำรถมาขับวินรับจ้าง เมื่อพี่ชายมาถึงเกิดอาการไม่พอใจ จึงมีปากเสียงถึงขั้นชกต่อยกัน แต่พี่ชายสู้ไม่ได้ จึงควักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่พกมาตบเข้าที่หน้าตนหลายครั้ง และยิงลงพื้น 2 นัด ก่อนวิ่งหลบหนีไป ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาช่วย

สอบถามเพื่อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งออกจากเรือนจำมาจากคดียาเสพติด ปกติถ้าไม่เมาจะเป็นคนดี แต่ถ้าเมาก็จะมีอารมฉุนเฉียว มีพฤติกรรมรุนแรง เป็นเจ้าถิ่นขาใหญ่ในพื้นที่ ชอบพกปืน ใครมองหน้าไม่ได้ และไม่มีใครกล้าแตะ


ด้านตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า หลังจากควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ จึงนำตัวไปค้นบ้านพัก พบคนร้ายมีการซ้อมเป้ายิงปืน และเป็นคนใช้อาวุธปืนได้ดี จากการตรวจค้นพบกระสุนปืนขนาด .38 มม. จำนวน 50 นัด มีดดาบยาว 5 เล่ม ยาบ้า 8 เม็ด ยาเคตามีน 4 ถุง ยาอี 1 เม็ด

ขณะที่ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเคและดื่มน้ำกระท่อมมาด้วย จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข