ปะทะเดือด คนร้ายโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบล จ.ยะลา

ยะลา 9 เม.ย. – กลุ่มคนร้ายโจมตีด้วยระเบิดใส่ฐานชุดคุ้มครองตำบลบุดี อ.เมือง จ.ยะลา ปะทะกับเจ้าหน้าที่นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนล่าถอย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทิ้งไว้แต่ร่องรอยความเสียหาย


จากเหตุการณ์คนร้ายป่วน ขว้างระเบิด ยิงใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล ชคต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อช่วงกลางดึก เวลา 01.30 น. ที่ผ่านมา จนเกิดการปะทะนานกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมทั้งลอบเผาอาคารของตลาดนัดกลางรับซื้อผลไม้ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ยะลา ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับความเสียหาย

เช้าวันนี้ (9 เม.ย.) พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อม พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดภายในฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล ชคต.บุดี จำนวน 2 จุด บริเวณด้านหน้าเสาธง และบริเวณห้องครัวประกอบอาหาร สะเก็ดระเบิดทำให้หลังคาได้รับความเสียหาย กระจกแตกกระจัดจาย และเศษดินกระจัดกระจายทั่วบริเวณ ใกล้กันรอบๆ ฐาน พบหลุมระเบิดหลายจุด พร้อมทั้งสะเก็ดระเบิดลูกปรายขนาดเล็กทั่วบริเวณ


จากการสอบสวนเบื้องต้น อส.ท.อิสมาแอ สะแลแม หัวหน้าชุด ชคต.บุดี ได้เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้น จึงได้แจ้งรายงานเหตุการณ์ไปยังผู้บังคับบัญชา ทั้งอำเภอเมืองยะลา เจ้าหน้าที่หทาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอกำลังสนับสนุน ระหว่างนั้นคนร้ายได้ยิงใส่ฐาน เกิดเสียงระเบิดหลายครั้ง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้ตอบโต้ พร้อมทั้งเข้าประจำแนวฐานเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ผู้ก่อเหตุไม่สามารถเข้ามาประชิดได้

จากการสำรวจร่องรอยความเสียหาย พบหลุมระเบิด 2 จุด ภายในฐาน ชคต. และบริเวณด้านข้าง และด้านหลัง รวมประมาณ 7-8 ลูก ช่วงระหว่างเกิดเหตุเกิดการตอบโต้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สำหรับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด พบหลังคา กระจก เครื่องครัว รวมทั้งรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ ที่จอดอยู่ด้านหลัง ได้รับความเสียหาย ส่วนเหตุเพลิงไหม้อาคาร ตลาดนัดกลางรับซื้อผลไม้ของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ยะลา คาดเกิดจากการตอบโต้ปะทะกัน และส่วนหนึ่งเป็นการลอบเผาของคนร้าย เพื่อสร้างสถานการณ์ ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้ขว้างก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ พรือ M.79 เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบโดยละเอียด คาดคนร้ายต้องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง