fbpx

พระพยอม แนะอย่าใจแคบ ปมพระอาพาธไถ่บาปกับพระเจ้า

6 เม.ย. – โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปพระสงฆ์ไถ่บาปรักษาอาการอาพาธกับพระเจ้า ขณะพระพยอม เตือนต้องเปิดใจกว้างอย่าใจแคบถ้าเขารักษาหาย ด้านตัวแทนคริสตจักรเผยเป็นการอวยพรปลอบประโลม ไม่ใช่สวดมนต์


จากกรณีมีเพจ “Bright Romance Pattaya” ระบุเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แชร์คลิปการรักษาอาการป่วย รวมทั้งอาการต่างๆ ด้วยการนับถือพระเจ้า โดยมีคลิปภาพพระภิกษุสงฆ์เข้าไปรักษาด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ว่าพระภิกษุสงฆ์ สมควรกระทำแบบนี้หรือไม่

เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ บริเวณที่ตั้งขององค์กรดังกล่าว ที่ ซอยชัยพฤกษ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นโครงเหล็กมีหลังคาขนาดใหญ่ โดยมีสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีแดงขนาดใหญ่ แต่สถานที่ปิดเงียบ


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป ที่วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อขอความคิดเห็น พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งพระพยอม กล่าวว่า การที่พระอาพาธ ใครเป็นหมอศาสนาไหนก็ตาม ถ้ารักษาแล้วหายถือว่าได้ลาภอันประเสริฐ เพราะฉะนั้นการที่ทำให้หายโรค หายภัย หายอาพาธ ไม่เกี่ยวกับเรื่องต้องไปยึดติดว่าคนนั้นอยู่ศาสนาไหน การรักษาด้วยเจตนาดี ไม่มีข้อต่อรองว่าถ้าหายแล้วต้องเปลี่ยนศาสนา ก็ไม่เป็นไรไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนที่หลายคนอาจจะไม่พอใจ คำพูดตอนท้ายคลิปที่บอกว่า ไม่มีพระที่ไหนจะรักษาให้หายได้ยกเว้นพระเยซูถือว่าเหมาะสมหรือไม่ พระพยอม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะว่าใครนับถือใคร ก็จะยกท่านนั้นเป็นที่หนึ่งในโลก เป็นเรื่องธรรมดาทางที่ดี จะเป็นพระพุทธเจ้า พระเยซู หรือพระอัลเลาะห์ ก็ขอให้เป็นสหกรณ์ศาสนา ร่วมกันดูแลรักษาโรคภัยไข้เจ็บจะยิ่งดีขึ้นไปใหญ่เลย

ขณะที่ต่อมา นายภูริชญ์ อายุ 39 ปี ตัวแทนคริสตจักร Bright Romance Pattaya ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ คลินิกรักษาผิวหนังแห่งหนึ่ง ใน อ.บางละมุง พระสงฆ์ท่านเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง และระหว่างทำการรักษา พระสงฆ์ได้ระบายทุกข์ในใจให้หมอฟัง ซึ่งหมอเป็นคริสเตียน สำหรับคริสเตียนแล้วไม่มีการแบ่งแยกศาสนา หากพบว่า ผู้ใดทุกข์ก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ โดยชาวคริสเตียนจะใช้วิธีการอธิษฐานเผื่อ เพื่อให้พระเจ้าได้ประทานความรักในการเยียวยารักษาจิตใจ ซึ่งวิธีการนี้ ไม่ใช่การสวดมนต์ แต่เป็นการอวยพรปลอบประโลม หัวใจ จิตใจพระสงฆ์ ให้ดีขึ้น โดยใช้ภาษาของพระคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้เป็นการสวดมนต์หรือเข้าทรงตามที่หลายคนเข้าใจ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย