นครศรีธรรมราช 14 มี.ค. – พบศพหญิงวัย 42 ปี ถูกฝังกลางหุบเขา หลังสำนักสงฆ์เขาล้อม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังญาติแจ้งหายจากบ้านไปนานร่วมเดือน พบกระสุนฝังคอ 1 นัด ตร.คาดถูกอุ้มปมยาเสพติด
ตำรวจ สภ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 กองปราบปราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายแล้วนำศพไปฝังดินกลางหุบเขา หลังสำนักสงฆ์เขาล้อม หมู่ 7 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี เจ้าหน้าที่ต้องนั่ง จยย.ไต่ไปขึ้นตามเขาสูงชัน และเดินเท้าเข้าไปที่เกิดเหตุกลางหุบเขาริมห้วย พบหลุมฝังศพที่มีร่องรอยขุดไม่นาน เจ้าหน้าที่ระบุมีศพฝังอยู่ในหลุมดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานใกล้เคียงที่เกิดอย่างละเอียด จึงขุดหลุมศพ และเนื่องจากศพเน่าเปื่อยกลิ่นเหม็นรุนแรง จึงต้องใช้ธูปหอมห่อใหญ่มาจุดดับกลิ่น ก่อนขุดต่อ พบว่าถูกฝังลึกประมาณ 1 เมตร เป็นศพผู้หญิงอยู่ในชุดเดรสสีเหลือง นอนตะแคงในหลุม ถูกห่อด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากู้ศพนานหลายชั่วโมง กว่าจะนำขึ้นมาได้ เพราะศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย แพทย์ไม่สามารถระบุบาดแผลและเวลาที่ชัดเจนได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปชั้นสูตรเบื้องต้นที่ รพ.พรหมคีรี จากการเอกซเรย์พบว่าที่ลำคอมีกระสุนปืนไม่ทราบชนิดฝังอยู่ 1 นัด จึงนำศพส่งต่อไปยังศูนย์นิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.สุดารัตน์ อรรถวิจิตต์ อายุ 42 ปี เดิมเป็นคนเพชรบูรณ์ มาได้สามีและอาศัยอยู่ที่หมู่ 17 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ญาติแจ้งความหายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ตำรวจสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ก่อนออกหมายจับชายคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องในการหายตัวของผู้ตาย ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ บุกรุกเคหสถาน จากภาพวงจรปิดที่ได้จากบ้านของผู้ตาย โดยชายคนดังกล่าวเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างว่าไปส่ง น.ส.สุดารัตน์ ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนแยกย้ายกันและไม่ได้เจอกันอีก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหลายหน่วยได้ติดตามจนพบเบาะแสการสูญหายของผู้ตาย ก่อนเข้าค้นหาในบริเวณใกล้จุดพบศพ จนพบร่องรอยสำคัญและนำไปสู่การพบศพดังกล่าว
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผู้ตายหายออกจากบ้านไปร่วมเดือน จากพื้นที่ อ.ช้างกลาง จนกระทั่งมาพบศพอยู่ที่นี่ ทั้งนี้ตำรวจจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง อย่างละเอียดอีกครั้ง
มีข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่ น.ส.สุดารัตน์ จะหายตัวไป สามีของผู้ตาย เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ถูกจับกุมยาเสพติดและถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ ต่อมากลุ่มค้ายาเสพติดได้ติดตาม น.ส.สุดารัตน์ เพื่อให้ชดใช้ค่ายาเสพติดที่สามีถูกจับ จนกระทั่งมีการอุ้มหายออกไปจากบ้านพร้อมรถยนต์ กระทั่งมาพบถูกฆ่าตายฝังดินดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย
ส่วนรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาวของผู้ตาย ที่หายไปพร้อมกัน เจ้าหน้าที่ออกตามหาจนพบแล้ว อยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี แต่ไม่พบตัว น.ส.สุดารัตน์ และไม่มีหลักฐานว่าเกิดเหตุร้ายหรือไม่ จนกระทั่งตำรวจกองปราบปรามสืบสวนจนเชื่อว่ามีการฆ่า น.ส.สุดารัตน์ นำศพมาฝังดินอำพรางคดี . – สำนักข่าวไทย
