เพชรบูรณ์ 29 พ.ย. – “รีเอกซเรย์” วัด บ้าน โรงเรียน ใน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พบพระวัดดังฉี่ม่วงตั้งแต่เจ้าอาวาสยันพระลูกวัด เจ้าหน้าที่จับสึกยกวัด แต่เจ้าอาวาสหลบหนีไป ขณะที่อดีตพระลูกวัดฉี่ม่วงโอด ทำไมไม่ตักเตือนก่อนจับสึก
จากกรณีเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำหมู่บ้าน และโรงพยาบาลบึงสามพัน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจคัดกรองหาผู้เสพสารเสพติดภายในวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.บึงสามพัน เพื่อนำตัวผู้เสพไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด ตามโครงการ “รีเอกซเรย์” ซึ่งพบพระสงฆ์ไม่ต่ำกว่า 5 รูป จาก 3 วัด ฉี่ม่วง หรือมีสารเสพติดในปัสสาวะ โดยหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าอาวาสที่บวชมานานกว่า 10 พรรษา
นายสังยุติ นามบุรี กำนันตำบลบึงสามพัน ยอมรับว่า เรื่องนี้กระทบจิตใจของประชาชน หลังจากนี้ต้องปรึกษาพระผู้ใหญ่รวมทั้งชาวบ้าน ว่าจะทำอย่างไร วัดจะไม่กลายเป็นวัดร้าง โดยเฉพาะวัดทรัพย์เกษมนอก ที่เจอฉี่ม่วงยกวัด ทั้งเจ้าอาวาสและพระลูกวัดรวมทั้งหมด 4 รูป เจ้าหน้าที่ต้องนิมนต์พระลูกวัดไปทำการสึก แต่เจ้าอาวาสได้เดินทางออกจากวัดไป ไม่รู้ว่าไปไหนและไม่รู้ว่าสึกหรือยัง ขอต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ตอนนี้ได้เร่งจัดระเบียบภายในวัด โดยวันนี้ได้ให้คณะกรรมการวัดเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน พระที่ยอมสึกบางคนยังช่วยดูแลทำความสะอาด และคอยให้อาหารสุนัขและไก่ ตนหวังว่า หลังจากเข้าสู่ขบวนการแล้วพวกเขาจะเป็นคนดีของสังคม
ชาวบ้านรายหนึ่ง เผยว่า เคยได้ยินเรื่องพระวัดนี้เสพยา แต่เวลาตนเองมาวัดก็เห็นพระลูกวัดทำงานตัดหญ้ากันตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากพระชุดที่ถูกจับสึกไปแล้วจะกลับมาจำวัดอีก ตนคงยอมรับไม่ได้
ทางด้านหนึ่งในอดีตพระที่ถูกจับสึก แต่ยังอาศัยอยู่ที่วัด เปิดเผยว่า ตนเองบวชอยู่ที่วัดนี้เกือบ 4 พรรษา ยอมรับว่าเสพยาบ้ามานาน แต่ไม่ได้เสพทุกวัน วันที่โดนตรวจน่าจะเป็นสารตกค้าง ทำให้ตนเองรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงจับสึกเลย แทนที่จะตักเตือนกันก่อน และที่ตนเองยังไม่ยอมออกจากวัดก็เพราะสงสารสุนัขไม่มีคนหาข้าวกิน. -สำนักข่าวไทย