อ้างเป็นผู้พิพากษาฝากเข้าทำงานได้ ตุ๋นเหยื่อสูญกว่า 2 ล้านบาท

ตรัง 11 ต.ค.- ผู้เสียหายนับสิบรวมตัวแจ้งความเอาผิดหญิงวัย 33 ปี อ้างเป็นผู้พิพากษาสมทบ สามารถฝากเข้าทำงานในศาลจังหวัดตรังได้ แต่ต้องจ่ายค่าประกันก่อนเข้างาน เหยื่อหลงเชื่อสูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท


ที่ สภ.กันตัง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง นำลูกบ้าน 10 คน จาก 15 คน ที่ตกเป็นเหยื่อของหญิงวัย 33 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีหญิงคนดังกล่าว กรณีอ้างเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดตรัง และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง หลอกชาวบ้านว่า มีโควตางานในตำแหน่งคนขับรถ ธุรการ ผู้ช่วยอัยการ เลขาส่วนตัว ของศาลได้ เพียงแต่ต้องจ่ายค่าประกันก่อนเข้าทำงาน รายละ 40,000-100,000 บาท เมื่อชาวบ้านหลงเชื่อจ่ายเงินไป ปรากฏว่าถึงเวลาเรียกรายงานตัว กลับถูกหญิงคนดังกล่วบ่ายเบี่ยง ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครได้เข้าทำงาน แต่สูญเงินไปแล้วรวมกว่า 2 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เมื่อชาวบ้านคาดว่าถูกหลอก ไปสอบถามกับหน่วยงานยุติธรรม ทำให้พบว่าไม่มีชื่อหญิงคนดังกล่าวเป็นผู้พิพากษาสบทบแต่อย่างใด หนักกว่านั้นยังเคยต้องโทษคดีฉ้อโกงในพื้นที่ปัตตานีมาแล้ว ส่วนข้อมูลล่าสุดทราบว่าหญิงคนดังกล่าวไปออกรถกระบะป้ายแดงอีกด้วย ทำให้ยิ่งรู้สึกแค้นใจ


ทั้งนี้ ผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่า หญิงคนนี้เป็นชาวพัทลุงมาอาศัยอยู่บ้านญาติในพื้นที่ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง เริ่มแรกมาติดต่อสอบถามว่าสนใจทำงานที่ศาลหรือเปล่า เพราะมีโควตาอยู่ 6 ตำแหน่ง ด้วยความที่เป็นคนในหมู่บ้านและเคยเห็นหน้ากันมาก่อน ทำให้เชื่อใจ นัดวันเขียนใบสมัครวันที่ 27 กรกฎาคม ซึ่งใบสมัครก็ส่งให้ทางไลน์ พร้อมเรียกเงินค่าประกันรอบแรก 35,800 บาท แต่ไม่ยอมให้โอนเงินผ่านแอปฯ ให้ใส่ซองมาให้แทน

จากนั้น 30 กรกฎาคม อ้างว่าหัวหน้างานเห็นประวัติแล้วดูดี อยากให้บรรจุเลย แต่ขอเรียกเก็บเงินเพิ่มอีก 40,000 บาท และจะได้เงินคืนในเดือนตุลาคม ทำให้ทันทีที่ได้ยินผู้เสียหายก็รีบไปหาหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้อง เอาทะเบียนรถไปค้ำประกัน สุดท้ายก็โดนหลอก

ส่วนอีกรายบอกว่า ได้ไปหยิบยืมเงินญาติพี่น้องมาเป็นเงินประกันรวม 78,630บาท เสียค่ารถขนของจากกรุงเทพฯ กลับมาบ้านอีกเป็นเงินนับหมื่นบาท แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าไม่มีงานให้ทำ เคยสอบถามไปยังหญิงที่อ้างเป็นผู้พิพากษาสมทบก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก็ไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับหญิงคนนี้ให้ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก