กรุงเทพฯ 4 ธ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบยกแก๊ง “เพจอ้วนผอม ออนทัวร์” ตุ๋นเหยื่อซื้อทัวร์ทิพย์กว่า 400 คน ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., สืบสวนสอบสวน ขยายผลจับกุม น.ส.ศศิประภา อายุ 38 ปี และนายอัจฉริยะ อายุ 39 ปี บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง สาขารัตนาธิเบศร์ 3 จ.นนทบุรี ต่อเนื่องบริเวณหน้าประตูเรือนจำจังหวัดนนทบุรี
พฤติการณ์ กรณีที่ปรากฏข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยรายได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อ packages ทัวร์ต่างประเทศ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อ้วน ผอม จอมเที่ยว” โดยมี บจ.อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ กับพวก เป็นแอดมิน แต่เมื่อถึงกำหนดแล้วกลับไม่ได้เดินทาง เนื่องจากทัวร์ล่ม หรือบางรายเดินทางไปแล้วแต่กลับไม่มีโปรแกรมทัวร์ตามตารางที่แจ้งไว้
ขณะเดียวกันผู้เสียหายบางส่วนก็ถูกบังคับให้ออกค่าใช้จ่ายเอง และยังไม่สามารถขอเงินคืนได้ ทั้งที่ทางบริษัทเคยยืนยันว่า สามารถขอเงินคืนได้ภายหลัง ทั้งนี้ บริษัทฯ ดังกล่าว ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองทัวร์ล่วงหน้า 2-3 เดือน ซึ่งบางทริปทัวร์เปิดให้จองล่วงหน้าเป็นปี โดยใช้วิธีจูงใจด้วยการลดราคา มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เช่น ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์, ทัวร์พม่า, ทัวร์ฮอกไกโด ญี่ปุ่น, ทัวร์เวียดนามเหนือ ใช้วิธีตั้งเงื่อนไขเวลา เพื่อเป็นอุบายให้ลูกค้ารีบซื้อในทันที อ้างว่าไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ส่วนลดราคา หรือโปรโมชั่นตามข้างต้น ซึ่งเมื่อถึงเวลาเดินทาง กลับประกาศเลื่อนทัวร์ออกไปโดยไม่มีกำหนดอ้างหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขอวีซ่าไม่ผ่าน หรือเรื่องที่พักมีปัญหา ติดขัด เป็นต้น จนทำให้มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 100 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 ผู้เสียหาย ประมาณ 400 กว่าคน ตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. ให้ดำเนินคดีกับ บจ.อ้วน ผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ กับพวก พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลอาญาออกหมายจับ นายอัจฉริยะ กรรมการบริษัท และน.ส.ศศิประภา หุ้นส่วนบริษัท และมีหน้าที่เป็นผู้จัดการจัดทริปทัวร์ต่างๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสามารถตามจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ในที่สุด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้หลอกลวงผู้เสียหายแต่ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการขาดทุนในทริปทัวร์ก่อนหน้านั้น
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและโดยเจตนาก่อให้ห้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ”.-412-สำนักข่าวไทย