ยกบานประตูระบายน้ำเปิดทางแม่น้ำปิงรับมือพายุโนรู

ภูมิภาค 27 ก.ย. – ระดับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ยังเพิ่มสูงและไหลเชี่ยว หลังฝนตกหนักทำให้สำนักชลประทานที่ 1 สั่งยกประตูระบายน้ำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทั้ง 6 บาน เพื่อเปิดพื้นที่รับมวลน้ำจากพายุโนรู


สถานการณ์แม่น้ำปิงล่าสุดวันนี้ช่วงไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่และอำเภอใกล้เคียงอยู่ในระดับสูงจากฝนที่ตกสะสมตลอดสัปดาห์ ที่สถานีวัดระดับน้ำ สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 2.70 เมตร จากระดับตลิ่งที่ 3.70 เมตร ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 สั่งติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และสั่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง น้ำหลาก ทั้งเขตเชียงใหม่และลำพูน รวมถึงให้ศูนย์ปฏิบัติการสูบน้ำแม่เหียะ เตรียมเครื่องสูบน้ำพร้อมช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยด้วย

ขณะที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา ออกประกาศชี้แจงสถานการณ์ กรณีชาวบ้านแตกตื่น เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จะระบายน้ำเพิ่มพื้นที่รับน้ำ รับมือพายุโนรู โดยยืนยันเขื่อนแม่กวงอุดมธาราจะยังไม่ระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากยังรับน้ำได้อีก 56 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปัจจุบันที่มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 210 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 80%


ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่สุโขทัยโดยมวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก ล้นสปิลเวย์ ไหลบ่าลงคลองสาขา และทะลักเข้าท่วมบ้านพื้นที่ 9 หมู่บ้านของตำบลเมืองบางขลัง อำเภอสวรรคโลก ส่งผลกระทบกับประชาชน 120 ครัวเรือน และนาข้าวเสียหายนับพันไร่ ทหารต้องเร่งนำกระสอบทรายช่วยชาวบ้านปิดกั้นทางน้ำ ด้านผู้ว่าฯ สุโขทัย ในฐานะ ผอ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสุโขทัย ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำและ 2 ฝั่งคลอง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และขนของขึ้นที่สูงในช่วง 27 ก.ย.-2 ต.ค. รวมถึงติดตามข่าวสารการเคลื่อนตัวของพายุโนรูอย่างใกล้ชิด

ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน สั่งปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จาก 120 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็นอัตรา 180 ลูกบาศก็เมตร/วินาที ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เพื่อรองรับน้ำจากเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำป่าสัก หลังจากระยะนี้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง อีกทั้งคาดการณ์พายุโนรูจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่งผลให้มีฝนตกหนักในลุ่มน้ำป่าสัก ทั้งนี้การระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักชลสิทธิ์สูงขึ้นอีก 1.30-1.50 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังอยู่ในลำน้ำ ไม่เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่ง แต่ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าฯ ลพบุรี สระบุรี และพระนครอยุธยา ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบ และติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย