กำแพงเพชร 20 ก.ย.- พ่อแท้ๆ ทำร้ายลูกชายวัย 6 ขวบ เสียชีวิต ก่อนนำร่างใส่รถจักรยานยนต์มาโยนทิ้งแม่น้ำปิง อ้างโมโหลูกเกเรทำร้ายลูกชาวบ้าน ประกอบกับเมาเหล้า ล่าสุดตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนฯ
ตำรวจคลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุพ่อทำร้ายลูกจนเสียชีวิตแล้วนำศพทิ้งในแม่น้ำปิง โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีมาแจ้งตำรวจว่า มีเด็กหายไป ตำรวจจึงให้ชายอายุ 33 ปี พ่อเด็ก เข้าให้ข้อมูลเพิ่ม ก่อนที่พ่อเด็กจะสารภาพ ทำร้ายลูกเสียชีวิต แล้วนำศพทิ้งแม่น้ำปิง
เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 กันยายน ในช่วงค่ำพ่อเด็กเมาสุรากลับมาที่บ้าน จากนั้นลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายลูกชายจนบาดเจ็บอย่างหนัก จากนั้นเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน เขาไปปลุกลูกพบว่าเสียชีวิตตัวแข็งแล้ว จึงนำลูกขึ้นรถจักรยานยนต์มาทิ้งริมแม่น้ำปิง ซึ่งมีพยานพบเห็นว่าพ่อเด็กเป็นผู้นำร่างลูกนั่งหน้ารถจักรยานยนต์ออกไป
ตำรวจให้พ่อเด็กพาไปชี้จุดทิ้งศพที่บริเวณเชิงสะพานคลองขลุงเก่า ฝั่งท่ามะเขือ โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานระดมกำลังค้นหาร่างเด็กกว่า 30 คน เดินเรียงหน้ากระดานค้นหาจุดที่บอกว่านำศพมาทิ้ง ซึ่งใช้เวลาหานานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็หาร่างเด็กไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงยกเลิกการค้นหาชั่วคราว ตำรวจจึงสอบสวนอีกครั้ง จนรับยอมรับว่าไม่ได้นำมาทิ้งจุดนี้ แต่เป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งห่างจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อไปถึงก็พบศพเด็กลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ ตามตัวมีบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้าย
พ่อเด็กให้การว่า ที่ตนเองลงมือทำร้ายร่างกายลูกชาย เนื่องจากโมโหที่มีเพื่อนบ้านมาฟ้องว่าลูกไปทำร้ายร่างกายเด็กคนอื่น จนได้รับบาดเจ็บ จึงต้องลงโทษ ประกอบกับตนเองเมาเหล้า จึงลงมือทุบตีและทุ่มลูกลงกับพื้นอย่างรุนแรง จนมารู้ว่าเสียชีวิตขณะเรียกปลุกลูกตอนเช้าอีกวัน
ด้าน พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ยอมรับเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าที่ผู้ก่อเหตุลงมือทำร้ายลูก เพียงแค่ลูกไปทำร่างกายคนอื่น คาดว่ายังมีปมโมโหภรรยาที่ไปมีแฟนใหม่ จึงตีลูกประชด ซึ่งตำรวจให้น้ำหนักเรื่องนี้มากกว่า
ส่วนผู้ที่แจ้งเรื่องกับตำรวจเปิดเผยว่า ตนเองและแม่ของเด็กทำงานอยู่ที่เดียวกัน ที่ผ่านมาตนมักจะมาเล่นกับเด็กผู้เสียชีวิตและน้องชายวัย 5 ขวบ อยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยช่วยกันดูแลหาข้าวหาน้ำให้กิน จนกระทั่งวันที่ 18 กันยายน ตนไม่เห็นเด็ก จึงถามกับพ่อของเด็ก ว่าลูกหายไปไหน พ่อเด็กบอกว่า ก่อนจะออกมาทำงานในช่วงเช้ายังเห็นเด็กทั้งสองคนนอนอยู่ในบ้าน ตนไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งในช่วงเย็น ก็ยังไม่เห็นเด็ก จึงได้เข้าไปดูที่บ้านและพบกับลูกคนเล็กของผู้ก่อเหตุ โดยน้องบอกกับตนว่า พ่อซ้อมพี่ชาย พ่อจับพี่ทุ่มพื้น และพาตนเข้าไปดูรอยเลือดบนที่นอนและหมอนที่มีผ้าห่มปิดคลุมไว้ ทำให้ตนคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจในวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
ผู้แจ้งความยังเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาพ่อเด็กมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายภรรยาและลูก ซึ่งตนเองมักจะเป็นคนคอยห้ามปรามอยู่เสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่พ่อเด็กลงมือทำร้ายร่างกายลูกจนเสียชีวิต ตนเองคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดที่ภรรยาบอกเลิกแล้วหนีไป เพราะตั้งแต่ภรรยาไม่อยู่ผู้ก่อเหตุก็ดื่มเหล้าเมาทุกวัน ทำให้พลั้งมือซ้อมลูกจนถึงแก่ความตาย
ล่าสุด ตำรวจกำลังนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนฯ แต่ยังไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย