บุรีรัมย์ 19 ก.ย. – ผอ.โรงเรียนฉกมือถือลูกศิษย์ ม.2 ดอดรับทราบข้อหาแล้ว แต่ยังปฏิเสธขโมย เห็นชาร์จทิ้งไว้ กลัวลืมจึงเก็บไว้ให้ ขณะที่แม่เด็กจี้สั่งย้าย ผอ. เหตุเพราะกลัวลูกถูกกลั่นแกล้ง และไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนต้นสังกัดสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
กรณีผู้ปกครองนักเรียน ม.2 ที่ จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องสื่อเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีเมื่อวัน 14 กันยายน มือถือของลูกยี่ห้อ vivo Y12 สีน้ำเงิน ราคาประมาณ 3,500 บาท ที่ซื้อให้ลูกชายใช้เรียนออนไลน์ และไว้ติดต่อผู้ปกครองตอนเลิกเรียน ได้หายไปขณะเสียบชาร์จไว้ในห้อง จึงให้ลูกชายไปแจ้งความ และใช้แอปค้นหาตำแหน่งมือถือที่หาย แต่เมื่อเจอพิกัดก็แจ้งตำรวจให้ช่วยติดตาม วันแรกไปเจอแถวๆ เสาธงในโรงเรียน ครูกับลูกก็พยายามหาว่านักเรียนคนไหนเอาไป แต่หาไม่เจอ อีกวันเจออยู่แถวอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แต่พอโทรไปบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าเป็นยามวิกาลให้ติดต่อพรุ่งนี้ พอมาอีกวันมาเจอพิกัดอยู่ในโรงเรียน เมื่อแจ้ง ผอ.โรงเรียน ผอ.ไม่ได้พูดอะไร แต่สุดท้าย ผอ.กลับได้นำมือถือที่หายไปมาส่งมอบให้ตำรวจ แต่อ้างว่าไม่เจตนาจะเอาไป แค่ยึดไว้เพราะไม่อนุญาตให้เด็กเอามือถือมาโรงเรียน ทั้งบอกให้ลูกชายถอนแจ้งความ เพราะกลัวจะเสียชื่อเสียงโรงเรียน
เหตุการณ์นี้ เบื้องต้นตำรวจ สภ.หนองสองห้อง ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์มือถือ แต่ ผอ.ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีเจตนาจะลักขโมยเอามือถือของเด็กไป เพียงแต่เป็นการยึดไว้เท่านั้น
นักเรียนที่มือถือหาย และผู้ปกครองได้เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน พร้อมยืนยันว่ามือถือเป็นของตัวเองจริง โดยแม่เด็กยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวลูกจะถูกกลั่นแกล้งที่แจ้งความเอาผิด ผอ. อยากให้ทางต้นสังกัดได้พิจารณาสั่งย้าย ผอ. เพราะมองว่าเป็นถึงผู้บริหาร แต่กลับกระทำการที่ไม่สมควรเป็นตัวอย่างให้กับเด็ก พร้อมบอกด้วยว่ายังคาใจว่า หากไม่ได้เจตนาเอามือถือของลูกชายไปจริง ทำไมไม่แจ้งให้คนอื่นทราบ หรือเอามาคืนแต่แรก แถมปล่อยให้ล่วงเลยไปถึง 3 วัน ที่สำคัญหากยึดไว้ทำไมมือถือพิกัดไม่อยู่แค่ที่โรงเรียน ส่วนที่ ผอ.ไปที่บ้านเมื่อวาน เพื่อพยายามขอเคลียร์และขอโทษ และอ้างว่าไม่เจตนา ยืนยันว่ามาถึงตอนนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
เช้าวันนี้ แม่ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนนักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลายเกือบ 50 คน ได้รวมตัวกันมาถือป้ายประท้วงที่หน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ พร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของ ผอ. จำนวน 33 ข้อ มาเรียกร้องให้ต้นสังกัดพิจารณาสั่งย้าย ผอ.ออกนอกพื้นที่
นักเรียนบอกว่า ผอ.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ และละเมิดสิทธิเด็กนักเรียน เช่น ห้ามนำมือถือไปโรงเรียนทั้งที่บางวิชาต้องใช้ค้นหาข้อมูล ห้ามไว้ผมยาวเกินติ่งหู ทั้งที่กระทรวงศึกษาธิการอนุโลมให้ไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย ให้เด็กเข้าแถวฟังครูให้โอวาทหน้าเสาธงตากแดดนานเกินไปจนเด็กบางคนเป็นลม แต่ ผอ.กลับถามว่าทำไมไม่ออกกำลังหาย รวมถึงพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่เด็กรับไม่ได้ จึงอยากให้พิจารณาย้าย ผอ.ออกจากโรงเรียน
ขณะที่ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ บอกว่า สพม.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว หากพบว่ามีมูลตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน และหากผลสอบพบว่า ผอ.กระทำผิดจริงตามที่ถูกร้องเรียน ก็จะลงโทษทางวินัยตามระเบียบที่กำหนดไว้ ส่วนเรื่องคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้าน ผอ.โรงเรียนที่ถูกกล่าวหา เคลี่อนไหวอีกครั้ง โดยทำรายงานชี้แจงทางต้นสังกัดว่า สาเหตุที่หยิบเอามือถือของเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ไปในวันนั้น เพราะเห็นเด็กชาร์จทิ้งเอาไว้ กลัวว่ามือถือจะหาย จึงเก็บไว้ให้ วันต่อมา ผอ.มีภารกิจไปประชุมและทำกิจกรรมหลายอย่าง จึงลืมแจ้งทางครูทราบ กระทั่งได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่าเด็กไปแจ้งความมือถือหาย จึงนำมือถือไปส่งตำรวจ ย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาขโมยหรือลักทรัพย์ เพียงแค่เก็บเอาไว้ให้เท่านั้น. – สำนักข่าวไทย