ตรังน้ำป่าหลากท่วมสวนยาง-ชัยภูมิหวั่นเขื่อนแตก เร่งระบาย

ภูมิภาค 4 ก.ย.-จ.ตรัง น้ำป่าจากน้ำตกอ่างทองไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.สิเกา ด้าน จ.ชัยภูมิ หวั่นเขื่อนแตก เร่งปล่อยน้ำทะลักท่วมไร่นา หลังน้ำจากเทือกเขาพังเหยไหลทะลักลงไปในเขื่อนห้วยทราย อ.บำเหน็จณรงค์ จนใกล้เกินความจุ


เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ระดับน้ำเอ่อล้นคลองสว่างหมู่ที่ 2 บ้านเขาแก้ว ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา ทำให้ถนนสายตรัง-สิเกา ช่วงหน้าวัดเขาแก้ว มีน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 10-30 เซนติเมตร แต่รถเล็กยังผ่านได้ ยกเว้นถนนทางเข้าหมู่บ้านในหมู่ที่ 1 ต.นาเมืองเพชร น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เส้นทางอื่นแทน ส่วนบ้านเรือนประชาชนมีน้ำท่วมสูง 10-60 เซนติเมตร ซึ่งตอนนี้ฝนหยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้กระแสน้ำป่าเริ่มลดระดับลง แต่ยังไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำต่อไป ซึ่งในช่วงเย็นระดับน้ำจะลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงปิดการท่องเที่ยวน้ำตกอ่างทอง เนื่องจากกระแสน้ำไหลท่วมที่พักและลานนั่งเล่น หวั่นเกิดอันตรายจากน้ำป่าอีกระลอก

คลื่นลมแรงขึ้นธงแดงห้ามลงเล่นน้ำทุกหาด


จ.พังงา หลายอำเภอเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ทางโรงแรม รีสอร์ตย่านเขาหลักต้องนำธงแดงพร้อมป้ายเตือนห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในทะเล ส่วนเรือประมงพื้นบ้านได้จอดเทียบท่าไม่ออกจับปลาในทะเล รอดูสถานการณ์เพื่อความปลอดภัย ซึ่ง จ.พังงา สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ในทุกอำเภอ เพื่อเป็นการเน้นย้ำฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์

นครพนมเร่งอพยพสัตว์เลี้ยง หลังน้ำอูนล้นตลิ่ง

ขยับไปที่ภาคอีสาน จ.นครพนม ระดับน้ำโขงยังทรงตัวลดระดับประมาณวันละ 10 เซนติเมตร ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 8 เมตร ยังส่งผลกระทบหนุนลำน้ำสาขาสายหลัก ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม มีปริมาณเกินความจุ เนื่องจากไหลระบายลงน้ำโขงช้า และยังมีมวลน้ำที่ล้นตลิ่ง เอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มกว่า 4,000-5,000 ไร่ นอกจากนี้ยังเอ่อท่วมพื้นที่ข้าวนาปีรวมกว่า 300-400 ไร่


นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ท่าบ่อสงคราม เป็นพื้นที่สำคัญที่เกษตรกร มีการเลี้ยง โค กระบือ จำนวนมากกว่า 300-400 ตัว ในช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ต้องเร่งอพยพสัตว์เลี้ยง โค กระบือ ขึ้นพื้นที่สูง หวั่นฝนตกมาซ้ำอีก ส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่ม และชุมชนหมู่บ้าน ทำให้มีระดับน้ำสูงขึ้น พร้อมเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยง

ชัยภูมิหวั่นเขื่อนแตก เร่งปล่อยน้ำทะลักท่วมไร่นา

ฝนที่ตกมาตลอดทั้งคืนทั้งวันส่งผลทำให้น้ำจากเทือกเขาพังเหยไหลทะลักลงไปในเขื่อนห้วยทราย ที่ตั้งอยู่ใน ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จนใกล้เกินความจุ จนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งพรองน้ำออกจากตัวเขื่อน ทำให้มวลน้ำจำนวนมาก ไหลเข้าท่วมเลือกสวนไร่นาพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนรวมทั้งถนนสายบำเหน็จณรงค์-ซับใหญ่ บริเวณสามแยกบำเหน็จ ถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางกว่า 200 เมตร ทำให้รถสัญจรไปมาลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวัง

ขณะเดียวกัน มีชาวบ้านเรือนชาวบ้านเปิดเป็นร้านค้าขายในบริเวณดังกล่าว ต้องได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ้านได้รับความเดือดร้อนค้าขายของไม่ได้เสียหายจำนวนมาก นายสมพงษ์ มิ่งพิสุทธิ์สกุล เจ้าของร้านขายข้าวสารและอาหารสัตว์ เผยว่าน้ำท่วมครั้งรวมเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สร้างความเดือดร้อนทุกครั้ง ทำให้ค้าขายไม่ได้เสียเวลาในการทำความสะอาดบ้านตลอดเมื่อเกิดน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ กฤษฎีกา ยันยังไม่มีข้อสรุปปม “กิตติรัตน์”

“เลขาฯ กฤษฎีกา” ยันยังไม่ปัดตก “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ หรือไม่ เผยเตรียมประชุมคณะกรรมการร่วม สอบคุณสมบัติพรุ่งนี้

“กิตติรัตน์” เคารพการพิจารณา หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

“กิตติรัตน์” โพสต์ข้อความ หลังไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ลั่นไม่มีอะไรค้างคาใจ-ไม่เคยขลาดกลัวหนีหายเอาตัวรอด ระบุได้อาสาทำงานให้ประเทศแล้ว ยันเคารพการพิจารณา

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท