fbpx

“วิชา” ระบุคดี “บอส” ทำกันเป็นขบวนการ

สนง.คณะกรรมการกฤษฎีกา 28 ส.ค.-“วิชา” เผย จะประชุมสรุปผลมหากาพย์คดี “บอส อยู่วิทยา” 30 ส.ค.ก่อนส่งนายกฯ ไม่มีอำนาจสั่งย้ายใคร แต่ผลชี้ชัดทำกันเป็นขบวนการ ถึงขั้นต้องออกปาก “ขนาดนี้เลยเหรอ”


นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เปิดเผยภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ว่า สำหรับรายงานที่จะเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะจัดทำ 2 ส่วน คือสรุปรายงานครบรอบ10 วัน รอบที่ 3 และรายงานฉบับรวม ซึ่งมีข้อเสนอรวมอยู่ด้วย และจะเป็นรายละเอียดว่าสอบใครบ้าง มีเอกสารในสำนวนประกอบอย่างไร

“ทั้งหมดจะเป็นผลจากการตรวจสอบที่ทำงานมาตลอด 30 วัน มีทั้งส่วนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมถึงส่วนสำคัญคือจะชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นข้อผิดพลาด อะไรเป็นการทำงานที่ไม่ถูกต้อง อะไรเป็นข้อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งส่วนหนึ่งตำรวจดำเนินการไปแล้ว คือการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 และจะเสนอเพิ่มเติมในส่วนที่นพ.แท้จริง ศิริพาณิชย์ เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับมาให้ถ้อยคำยืนยันว่าถึงเมาขนาดนั้นก็ยังขับได้ ซึ่งจะเป็นประเด็นที่จะส่งต่อให้ตำรวจเพื่อนำข้อหานี้เข้าไปอยู่ในพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ เพราะตรงนี้จะไปบังคับไม่ได้ แต่คณะกรรมการมีมติสนับสนุนความเห็นมูลนิธิเมาไม่ขับ ส่วนตำรวจจะไปสอบพยานผู้เชี่ยวชาญต่อไปหรือไม่เป็นเรื่องของตำรวจ” นายวิชา กล่าว


นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการไม่มีอำนาจชี้ขาดว่าใครผิดใครถูก หรือสั่งโยกย้ายใครได้ แต่สามารถนำเสนอเพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเท่านั้น เพื่อชี้มูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไปได้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก และขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

“เมื่อเห็นรายละเอียดมหากาพย์นี้ จะเห็นชัดเลยว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้จะเห็นภาพรวมของกระบวนการที่มีวิธีการร่วมกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะไปถึงใครอย่างไร หรือถึงขั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ สำหรับจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการสอบสวน ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี” นายวิชา กล่าว

นายวิชากล่าวา ในรายงานจะเกี่ยวข้องทั้งตำรวจและอัยการทั้งกระบวนการ และเพื่อจะเชื่อมโยงไปดูรายละเอียดอีก 30 วันข้างหน้าเรื่องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จึงต้องนำเสนอข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีและเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชนว่าสมควรแก่การปฏิรูปแล้ว และสมควรว่าองค์กรตำรวจและอัยการต้องให้เขาเห็นชอบโดยดุษฎียภาพ ไม่สามารถมาโต้แย้งได้ว่าจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับองค์กร ดังนั้น คณะกรรมการฯจึงต้องเสนอด้วยความชัดเจน


“ถ้าใครได้อ่านรายงานจะพบว่ามีรายละเอียดที่เป็นข้อน่าสงสัยทุกจุด เมื่ออ่านดูแล้ว ถึงกับต้องออกปากว่าขนาดนี้เลยเหรอ และจะฉายภาพรวมเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าในกระบวนการที่ทำนั้น ทำคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นการทำในลักษณะที่จะใช้วิธีการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ในรายงานไม่ชี้ชัดว่าไปถึงไหน แต่เอาเป็นว่ามีผู้เข้าร่วมในกระบวนการนี้ทุกภาคส่วนเป็นมหากาพย์ เหมือนดูละคร จะมีรายละเอียดทั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนจะเปิดเผยหรือไม่แล้วแต่นายกฯ ผมไม่เปิดเผยเอง” นายวิชา กล่าว

นายวิชา กล่าวว่าสำหรับความเห็นและข้อเสนอของนพ.แท้จริง ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่เรื่องเมาแล้วขับ ซึ่งจะส่งต่อตำรวจด้วย ว่าจะเอาเข้าสู่พยานหลักฐานใหม่นำสู่กระบวนการฟ้องศาล ส่วนตำรวจจะหยิบไปหรือไม่เป็นเรื่องของตำรวจ อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับประเด็นของนพ.แท้จริงที่ระบุว่าไม่อยากให้อ้างหลักฐาน เมาหลังขับ เพราะจะมีคนเอาไปเป็นตัวอย่าง ตำรวจต้องให้พ้นความผิดไป เพราะเคยให้นายวรยุทธพ้นผิด จึงเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง

“นพ.แท้จริงให้ความเห็นดีมาก หากยังยอมให้ตำรวจทำสำนวนเมาหลังขับมาแบบนี้ ก็จะถูกนำไปเป็นตัวอย่าง โดยบอกว่าก่อนขับรถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ในรถ พอถูกจับก็บอกว่า เพิ่งดื่มมาเพราะเครียด ซึ่งตำรวจต้องให้พ้นความผิดไปเพราะเคยให้ บอส วรยุทธ อยู่วิทยา พ้นความผิดไปแล้วก็กลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล” นายวิชา กล่าว

ส่วนคดีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญของคดีนี้นายวิชา กล่าวว่า ยังค้างอยู่ เพราะตำรวจภูธรภาค 5 ขอสอบสวนต่อ เช่นเดียวกับเส้นทางการเงินที่อยู่ระหว่างสอบสวน จึงยังไม่ได้รับรายงานเรื่องเส้นทางการเงิน แต่หน่วยที่รับผิดชอบรับเรื่องต่อแล้ว ต้องตรวจสอบให้จบ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะประชุมเพื่อสรุปรายงานในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 สิงหาคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบ

ดีเดย์ 29 เม.ย. ส่งกากแคดเมียมกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่สมุทรสาคร คุมหน้างานด้วยตัวเอง ย้ำต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง