ทำเนียบฯ 30 ก.ย.- “วิชา” เตรียมเสนอปฏิรูปกฎหมาย ให้ นายกฯ ทบทวนร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่ผ่าน ครม. แล้ว แนะ ใช้ฉบับเดิมของ “มีชัย” ชี้ ดีที่สุดในกฎหมายของตำรวจ
นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เปิดเผยว่า วันนี้ (30 ก.ย.) เป็นการประชุมนัดสุดท้าย ในเรื่องการจัดทำข้อเสนอแนะการปรับปรุงปฏิรูปกฎหมาย และจะเข้าพบนายกรัฐมนตรี วันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) เวลา 14.00 น. นำบทสรุป 4-5 หน้า จากเนื้อหาฉบับเต็มในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายทั้งหมด รวม 40-50 หน้า เสนอนายกรัฐมนตรี
นายวิชา กล่าวว่า ร่างกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ ที่จะให้นายกรัฐมนตรี นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร่งด่วน คือ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ กฎหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคดีอาญา โดยจะให้มีการทบทวน และถอนร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาใช้ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับเดิม ที่เสนอโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ คณะกรรมการกฤษฎีกา ชุดพิเศษ
นายวิชา กล่าวว่า เนื่องจากเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ มีเนื้อหาไม่สอดคล้องกับการปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญ และมีหลายส่วนทำให้เจตนารมณ์ของกฎหมายเปลี่ยนไป เช่น การที่ต้องการให้ตำรวจฝ่ายสอบสวน ต้องทำงานด้วยความเป็นอิสระไม่ถูกครอบงำ รวมทั้ง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย
“ยอมรับว่า การให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีรับหลักการไปแล้ว ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะปกติร่างพระราชบัญญัติใด ถ้าคณะรัฐมนตรีรับหลักการแล้ว จะไม่ค่อยเปลี่ยน แต่คณะกรรมการฯ ก็ขอยืนยันอย่างเด็ดขาด ว่าสมควรนำร่างพระราชบัญญัติของนายมีชัย ซึ่งถือว่าดีที่สุดในกฎหมายของตำรวจมาพิจารณา” นายวิชา กล่าว
นายวิชา กล่าวว่า ข้อแตกต่างอย่างสำคัญที่รัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ ว่าการแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งของทางตำรวจ ต้องเป็นไปตามหลักอาวุโส และความรู้ความสามารถ แต่ปรากฏว่าได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยชุดที่ตำรวจนำไปปรับปรุง ว่าเป็นไปตามอาวุโสตามลำดับชั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และเรื่องสายงานสอบสวน ซึ่งเราต้องการให้เป็นอิสระ ซึ่งชุดของอาจารย์มีชัยก็ร่างให้เป็นอิสระจริงๆ มีผู้บัญชาการได้สอบสวนดูแลคนเดียว แต่อันนี้ให้ขึ้นกับผู้กำกับทุก สน. ซึ่งไม่สอดคล้อง และไม่สอดรับกัน แค่สองเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายวิชา กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจ และว่าไม่ว่าร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใดจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการฯ จะเดินหน้าชี้แจงประชาชนต่อเจตนารมณ์ในการปฏิรูปตำรวจต่อไป .- สำนักข่าวไทย