รัฐสภา 22 ก.ค.-ส.ส.ก้าวไกลร่วมกันชูภาพ “ผักบุ้ง-ใบปอ” 2 นักเคลื่อนไหวการเมืองที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ชี้นายกฯ ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือปราบคนเห็นต่าง
น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหามีการบิดผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเงิน เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการปราบปรามประชาชนผู้เห็นต่าง และปิดกั้นการใช้เสรีภาพของประชาชน พร้อมเสนอคืนความยุติธรรมให้กับนักโทษทางการเมืองทุกคน รวมถึงคดี 112 โดยมีช่วงหนึ่งอภิปรายถึงกรณีจับกุมคุมขังนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าง ณัฐนิจ ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ และ น.ส.นิติพร เสน่ห์สังคม หรือผักบุ้ง จำเลยในความผิดมาตรา 112 และ 116 ที่ถือป้ายให้คนติดสติกเกอร์แสดงความคิดเห็นสนับสนุนยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งยังไม่ได้ประกันตัว
น.ส.เบญจา กล่าวว่า การกระทำของทั้งสองคนเป็นการเคลื่อนไหวของสามัญชนคนธรรมดาที่มีความกล้าหาญ ซึ่งหากใช้สามัญสำนึกไตร่ตรองจะเห็นว่าไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายปกติ แต่เป็นการลงโทษล่วงหน้าตามอำเภอใจ ให้สาสม โดยการตีให้ทั้งสองหมอบกราบราบคาบ ลงโทษโดยไม่รอคำพิพากษา และบางคนที่ได้รับการประกันตัวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระหว่างที่รอต่อสู้คดีตามหลักที่ระบุว่า หากยังไม่มีคำพิพากษาถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ในขณะที่รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดร้ายแรง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังอุ้มชูและให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไปได้ แต่เหตุใดนักกิจกรรมที่เป็นอนาคตของชาติถึงกลับไม่มีสิทธิ์แม้แต่กลับไปเรียนหนังสือ
“เรื่องนี้เป็นเศษเสี้ยวของความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรมภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ และคดีการเมืองที่เป็นไปตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และปัจจุบันมีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง โดยไม่รับการประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี อย่างน้อย 30 คน ซึ่งมีข้อมูลจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมปี 2563 ถึงมิถุนายน 2565 มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการชุมนม และแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแล้วอย่างน้อย 1,832 คน และเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีกว่า 200 คน การบิดเบือนกฎหมายลักษณะนี้เป็นการค้ำจุนและรักษาอำนาจ ของผู้นำอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน และกลายเป็นยุทธศาสตร์ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อวิกฤตตุลาการและสถาบันทางการเมือง และจะกลายเป็นวิกฤตทางโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองที่กำลังรอวันพังทลายในอนาคต” น.ส.เบญจา กล่าว
น.ส.เบญจา กล่าวว่า ตนและพรรคก้าวไกลคิดว่าหากไม่ทำอะไรสักอย่าง สังคมไทยจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีก จึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวผักบุ้งและใบปอ รวมถึงนักต่อสู้ทางการเมืองทุกคน เพื่อคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความยุติธรรมให้ประชาชนและสังคม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด จึงไม่สามารถฝากอนาคตเยาวชนและประชาชนไว้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น ส.ส.พรรคก้าวไกลร่วมกันโชว์รูปผักบุ้งและใบปอจน น.ส.เบญจาอภิปรายจบ โดย น.ส.เบญจาเชิญชวน ส.ส.ในสภาฯ ยืนตรงทำหน้าที่ผู้แทนที่เป็นกระดูกสันหลัง ปลดล็อกชนวนระเบิดในระบบที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างขึ้นมา ด้วยการเอา พล.อ.ประยุทธ์ออกไป ซึ่งจะเป็นภารกิจสำคัญทางประวัติศาสตร์ของผู้แทนที่มาจากประชาชนที่จะร่วมกันรับฟังเสียงของประชาชน.-สำนักข่าวไทย