นายกฯ ร่ายยาวแจงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติพลังงาน ยันไทยไม่เป็นเหมือนศรีลังกา

รัฐสภา 21 ก.ค.-นายกฯ ร่ายยาวชี้แจงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติพลังงาน ยันไทยไม่เป็นเหมือนศรีลังกา เร่งฟื้นการท่องเที่ยว ไม่มีเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน ขออย่าสร้างเรื่องอื่นมาขัดแย้งกันอีก เตือนจะยิ่งหนักกว่าโควิด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงภายหลังสมาชิกฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในหลายประเด็น โดยในเรื่องการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเข้ามาตามกระบวนการของสภาฯ และมีพรรคการเมืองเสนอชื่อตามขั้นตอน ส่วนอนาคตกติกาจะว่าอย่างไรก็ว่ากันต่อไป ตนเองไม่ขอก้าวล่วงในทางการเมือง ไม่สามารถไปสั่งการทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม ถือเป็นความเห็นร่วมกันและเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ฟังมาตั้งแต่วันแรกคือการกล่าวหาว่า เศรษฐกิจพังพินาศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และอยู่รั้งท้ายในภูมิภาค โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ป่วยรั้งท้ายของภูมิภาค ดูจากจีดีพีของไทยถือว่ามีจีดีพีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของอาเซียน แม้ไทยจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่เศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าได้ และหลังจากโควิด-19 จีดีพีได้ฟื้นกลับมาเป็นบวกและเติบโตขึ้นมา ซึ่งในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวได้สูงขึ้นถึงร้อยละ 3.3


นายกรัฐมนตรียืนยันประเทศไทยไม่เกิดเหตุเหมือนเช่นประเทศศรีลังกาอย่างแน่นอน เศรษฐกิจของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ยืนยันมีเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูงและมีหนี้ต่างประเทศต่ำ อัตราเงินเฟ้อในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวลดลง ไทยได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิต ซึ่งมีนักลงทุนได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาและเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศ สะท้อนจากยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 จากปี 2564 และตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอดีขึ้น โดยมีมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท จาก 784 โครงการซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนโควิด แสดงให้เห็นว่าไทยยังมีศักยภาพอยู่ในการลงทุนจากต่างประเทศ แม้ว่าเราจะยังมีความยากลำบากในขณะนี้ รัฐบาลได้เตรียมการว่าจะอยู่อย่างไรในอนาคต ซึ่งได้มีการวางแผนโครงการไว้แล้ว แต่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนกลับมาชดเชยในส่วนที่เราได้กู้เงินไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพยายามฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของเรา ทั้งเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งสถิติการจดทะเบียนกิจการตั้งใหม่ ในเดือนเมษายน 2565 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 กว่า 700% สอดคล้องกับที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในเดือนพฤษภาคม 2565 เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านระบุว่าการท่องเที่ยวของไทยล่มจมเข้าขั้นวิกฤติ มูลค่าลดลงจาก 3 ล้านล้านบาท เหลือ 0.33 ล้านล้านบาทนั้น เป็นเพราะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และจากนี้ไปรัฐบาลได้มีการวางแผนและเตรียมการเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว พร้อมระบุถึงการจัดหาวัคซีน การล็อกดาวน์ในช่วงที่มีโควิด-19 ดังนั้นจากนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ขอให้นึกถึงเรื่องในอดีตด้วย ที่กว่าจะมาถึงวันนี้ จึงอยากให้นำปัญหามาแก้ไข ไม่ใช่มาทะเลาะขัดแย้งกัน และขณะนี้ไทยได้เปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งในปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 2-3 ล้านคน แต่จากสถานการณ์ตอนนี้อาจจะทำได้ถึง 7-10 ล้านคน


ส่วนที่ระบุว่าไทยมีการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน นายกรัฐมนตรียืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน และเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ซึ่งต้องศึกษาว่าเราจะจัดเก็บไปทำไม และจะนำเงินไปทำอะไร รวมถึงตนได้ให้แนวนโยบายไปว่าเราจะหาทางตั้งกองทุนเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้อย่างไร ช่วงเวลานี้ไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่เราจะมีรายได้เข้ามาอย่างมหาศาลและเกิดความร่ำรวยได้ แต่เป็นช่วงเวลาที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด มีสุขภาพที่ดีและนำไปสู่ความยั่งยืนที่มีรายได้เพียงพอควบคู่ไปกับเทคโนโลยีต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤติด้านพลังงานและ ค่าของชีพที่สูงขึ้น เกิดขึ้นกับทุกประเทศในโลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับไทย เป็นผลพวงจากโควิดและสงคราม ทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะค่าเงินและเงินเฟ้อ ยืนยันไม่ใช่ข้อแก้ตัวแต่เป็นตามหลักการทางด้านเศรษฐศาสตร์

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในช่วงวิกฤติโควิด ราคาเคยลดลงต่ำในช่วงปี 2563 ในช่วงที่มีการปิดประเทศ แต่เมื่อเปิดประเทศและเกิดสงครามราคาก็กลับมาพุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนน้ำมันของไทยที่ต้องนำเข้าสูงขึ้น ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอะไรที่ทำได้ ก็ทำให้ แต่อะไรที่ยังมีความเสี่ยงก็ต้องค่อยๆ ทำไป ส่วนปัญหาเงินเฟ้อของไทยธนาคารแห่งประเทศไทยก็กำลังดูอยู่ ไทยเดินหน้าให้เกิดความสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ใช้มาตรการควบคุมเท่าที่จำเป็น และไม่ได้ใช้เรื่องนี้ มาเพื่อควบคุมการชุมนุมแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ต้องการให้มีการแพร่ระบาดของโควิด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมา

“สังคมไทยก็บ่นกันว่าตึงเครียดเหลือเกิน ถูกบังคับ แต่อย่าลืมว่า เราก็ไม่ตาย เราก็เจ็บน้อยและตายน้อยกว่าคนอื่น ผมเสียใจไม่ว่าจะมีคนป่วยคนเจ็บและคนตาย เพราะทุกคนคือคนไทย ในห้องนี้ทุกคนก็เป็นคนไทย และผมจะไปทำลายท่านได้อย่างไร จะเกลียดท่านได้อย่างไร และทำทุกอย่างก็นึกถึงประเทศทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจะผิดจะถูก ผมก็รับในสิ่งที่ท่านพูดมา เพื่อจะไปแก้ไขปรับปรุงตรวจสอบให้ดีขึ้น ก็แค่นั้น ระบบการทำงานก็เป็นแบบนั้น แล้วเราต้องรักษาทางสายกลาง ความสมดุลให้ได้ ทำอย่างไรจะไม่เครียด และจะไม่สร้างปัญหาอื่นขึ้นมา เพราะมีทั้งเรื่องโควิด เศรษฐกิจอยู่แล้ว และจะไปขัดแย้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอีก มันไม่สมควร ผมว่ามันจะยิ่งหนักไปอีก จะหนักยิ่งกว่าโควิด ผมเตือนไว้ก่อน ผมไม่อยากจะเจอสภาพนั้น ไม่อยากเป็นรัฐบาลที่มาแก้ไขปัญหาแบบนั้นอีก สังคมต้องไม่เครียดจนเกินไป กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงก็ต้องควบคุม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงโครงการก่อสร้างด้านคมนาคม ที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา อย่าง รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้ารางคู่ ที่ฝ่ายค้านระบุว่า เป็นโครงการซ้ำซ้อน โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำพร้อมกันทั้งหมด เป็นเพียงแผนงาน ตามเม็ดเงินและช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่บอกว่าทำซ้ำซ้อน ก็เห็นว่าท่านก็ยังใช้ที่ตนทำมาทั้งหมด แต่ถ้าหากเห็นว่าสิ้นเปลือง ก็อย่าใช้ ให้คนอื่นใช้ เพราะคนที่พอใจมีอีกมาก และขออย่ากังวล เพราะรัฐบาลไม่เคยผิดการชำระหนี้แม้แต่ครั้งเดียว สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง

หลังจากนายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงนานกว่าชั่วโมง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีตอบข้อซักถามวนเวียน แต่เข้าใจว่าข้าราชการเขียนมาให้อ่าน ทำให้นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ขอให้ทนฟัง เพราะตนก็ทนฟังฝ่ายค้านมาหลายวันแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย