นายกฯ ร่ายยาวแจงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติพลังงาน ยันไทยไม่เป็นเหมือนศรีลังกา

รัฐสภา 21 ก.ค.-นายกฯ ร่ายยาวชี้แจงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติพลังงาน ยันไทยไม่เป็นเหมือนศรีลังกา เร่งฟื้นการท่องเที่ยว ไม่มีเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน ขออย่าสร้างเรื่องอื่นมาขัดแย้งกันอีก เตือนจะยิ่งหนักกว่าโควิด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงภายหลังสมาชิกฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในหลายประเด็น โดยในเรื่องการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเข้ามาตามกระบวนการของสภาฯ และมีพรรคการเมืองเสนอชื่อตามขั้นตอน ส่วนอนาคตกติกาจะว่าอย่างไรก็ว่ากันต่อไป ตนเองไม่ขอก้าวล่วงในทางการเมือง ไม่สามารถไปสั่งการทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม ถือเป็นความเห็นร่วมกันและเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ฟังมาตั้งแต่วันแรกคือการกล่าวหาว่า เศรษฐกิจพังพินาศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และอยู่รั้งท้ายในภูมิภาค โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ป่วยรั้งท้ายของภูมิภาค ดูจากจีดีพีของไทยถือว่ามีจีดีพีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของอาเซียน แม้ไทยจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่เศรษฐกิจก็ยังคงเดินหน้าได้ และหลังจากโควิด-19 จีดีพีได้ฟื้นกลับมาเป็นบวกและเติบโตขึ้นมา ซึ่งในปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวได้สูงขึ้นถึงร้อยละ 3.3


นายกรัฐมนตรียืนยันประเทศไทยไม่เกิดเหตุเหมือนเช่นประเทศศรีลังกาอย่างแน่นอน เศรษฐกิจของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ยืนยันมีเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูงและมีหนี้ต่างประเทศต่ำ อัตราเงินเฟ้อในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวลดลง ไทยได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิต ซึ่งมีนักลงทุนได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาและเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศ สะท้อนจากยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 จากปี 2564 และตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอดีขึ้น โดยมีมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท จาก 784 โครงการซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนโควิด แสดงให้เห็นว่าไทยยังมีศักยภาพอยู่ในการลงทุนจากต่างประเทศ แม้ว่าเราจะยังมีความยากลำบากในขณะนี้ รัฐบาลได้เตรียมการว่าจะอยู่อย่างไรในอนาคต ซึ่งได้มีการวางแผนโครงการไว้แล้ว แต่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนกลับมาชดเชยในส่วนที่เราได้กู้เงินไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องพยายามฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของเรา ทั้งเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งสถิติการจดทะเบียนกิจการตั้งใหม่ ในเดือนเมษายน 2565 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 กว่า 700% สอดคล้องกับที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในเดือนพฤษภาคม 2565 เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านระบุว่าการท่องเที่ยวของไทยล่มจมเข้าขั้นวิกฤติ มูลค่าลดลงจาก 3 ล้านล้านบาท เหลือ 0.33 ล้านล้านบาทนั้น เป็นเพราะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และจากนี้ไปรัฐบาลได้มีการวางแผนและเตรียมการเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว พร้อมระบุถึงการจัดหาวัคซีน การล็อกดาวน์ในช่วงที่มีโควิด-19 ดังนั้นจากนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ขอให้นึกถึงเรื่องในอดีตด้วย ที่กว่าจะมาถึงวันนี้ จึงอยากให้นำปัญหามาแก้ไข ไม่ใช่มาทะเลาะขัดแย้งกัน และขณะนี้ไทยได้เปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งในปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 2-3 ล้านคน แต่จากสถานการณ์ตอนนี้อาจจะทำได้ถึง 7-10 ล้านคน


ส่วนที่ระบุว่าไทยมีการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน นายกรัฐมนตรียืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน และเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ซึ่งต้องศึกษาว่าเราจะจัดเก็บไปทำไม และจะนำเงินไปทำอะไร รวมถึงตนได้ให้แนวนโยบายไปว่าเราจะหาทางตั้งกองทุนเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้อย่างไร ช่วงเวลานี้ไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่เราจะมีรายได้เข้ามาอย่างมหาศาลและเกิดความร่ำรวยได้ แต่เป็นช่วงเวลาที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่รอดปลอดภัยจากโควิด มีสุขภาพที่ดีและนำไปสู่ความยั่งยืนที่มีรายได้เพียงพอควบคู่ไปกับเทคโนโลยีต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤติด้านพลังงานและ ค่าของชีพที่สูงขึ้น เกิดขึ้นกับทุกประเทศในโลกนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับไทย เป็นผลพวงจากโควิดและสงคราม ทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะค่าเงินและเงินเฟ้อ ยืนยันไม่ใช่ข้อแก้ตัวแต่เป็นตามหลักการทางด้านเศรษฐศาสตร์

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในช่วงวิกฤติโควิด ราคาเคยลดลงต่ำในช่วงปี 2563 ในช่วงที่มีการปิดประเทศ แต่เมื่อเปิดประเทศและเกิดสงครามราคาก็กลับมาพุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนน้ำมันของไทยที่ต้องนำเข้าสูงขึ้น ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอะไรที่ทำได้ ก็ทำให้ แต่อะไรที่ยังมีความเสี่ยงก็ต้องค่อยๆ ทำไป ส่วนปัญหาเงินเฟ้อของไทยธนาคารแห่งประเทศไทยก็กำลังดูอยู่ ไทยเดินหน้าให้เกิดความสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ใช้มาตรการควบคุมเท่าที่จำเป็น และไม่ได้ใช้เรื่องนี้ มาเพื่อควบคุมการชุมนุมแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ต้องการให้มีการแพร่ระบาดของโควิด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมา

“สังคมไทยก็บ่นกันว่าตึงเครียดเหลือเกิน ถูกบังคับ แต่อย่าลืมว่า เราก็ไม่ตาย เราก็เจ็บน้อยและตายน้อยกว่าคนอื่น ผมเสียใจไม่ว่าจะมีคนป่วยคนเจ็บและคนตาย เพราะทุกคนคือคนไทย ในห้องนี้ทุกคนก็เป็นคนไทย และผมจะไปทำลายท่านได้อย่างไร จะเกลียดท่านได้อย่างไร และทำทุกอย่างก็นึกถึงประเทศทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจะผิดจะถูก ผมก็รับในสิ่งที่ท่านพูดมา เพื่อจะไปแก้ไขปรับปรุงตรวจสอบให้ดีขึ้น ก็แค่นั้น ระบบการทำงานก็เป็นแบบนั้น แล้วเราต้องรักษาทางสายกลาง ความสมดุลให้ได้ ทำอย่างไรจะไม่เครียด และจะไม่สร้างปัญหาอื่นขึ้นมา เพราะมีทั้งเรื่องโควิด เศรษฐกิจอยู่แล้ว และจะไปขัดแย้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอีก มันไม่สมควร ผมว่ามันจะยิ่งหนักไปอีก จะหนักยิ่งกว่าโควิด ผมเตือนไว้ก่อน ผมไม่อยากจะเจอสภาพนั้น ไม่อยากเป็นรัฐบาลที่มาแก้ไขปัญหาแบบนั้นอีก สังคมต้องไม่เครียดจนเกินไป กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงก็ต้องควบคุม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงโครงการก่อสร้างด้านคมนาคม ที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา อย่าง รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้ารางคู่ ที่ฝ่ายค้านระบุว่า เป็นโครงการซ้ำซ้อน โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำพร้อมกันทั้งหมด เป็นเพียงแผนงาน ตามเม็ดเงินและช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่บอกว่าทำซ้ำซ้อน ก็เห็นว่าท่านก็ยังใช้ที่ตนทำมาทั้งหมด แต่ถ้าหากเห็นว่าสิ้นเปลือง ก็อย่าใช้ ให้คนอื่นใช้ เพราะคนที่พอใจมีอีกมาก และขออย่ากังวล เพราะรัฐบาลไม่เคยผิดการชำระหนี้แม้แต่ครั้งเดียว สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง

หลังจากนายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงนานกว่าชั่วโมง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีตอบข้อซักถามวนเวียน แต่เข้าใจว่าข้าราชการเขียนมาให้อ่าน ทำให้นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ขอให้ทนฟัง เพราะตนก็ทนฟังฝ่ายค้านมาหลายวันแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย