ผบ.ทอ.เผยเมียนมาขอโทษ-ล้ำน่านฟ้า

1 ก.ค.- ผบ.ทอ.โต้คำวิจารณ์เอฟ-16 บินรักษาเขตแดนช้า ยันระบบป้องกันทางอากาศดีมาก ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตัดสินใจที่ดี ไม่ได้วัดกันที่ความเร็ว ต้องสุขุม รอบคอบ มีเหตุผล พอเหมาะพอควรกับสถานการณ์ ยอมรับตอนแรกเดือดเหมือนกัน รับรู้ความรู้สึกคนไทย ไม่ยอมให้เกิดเหตุซ้ำ ลั่นดำเนินการขั้นเด็ดขาด หลังขึ้นสถานีเรดาร์ฟังรายงานเหตุวานนี้ เผย ทอ.เมียนมา ขอโทษแล้ว


พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ขึ้นสถานีเรดาร์ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางสายฝน และอากาศเย็น 13 องศาฯ โดยมี พลอากาศเอก ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผช.ผบ.ทอ.  ร่วมคณะ และ พลอากาศเอก คงศักดิ์ จันทรโสภา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ผบ.คปอ.) ที่รับผิดชอบสถานีเรดาร์ทั่วประเทศ

โดยได้รับทราบรายงานการปฏิบัติหน้าที่เฝ้าตรวจชายแดน หลังจากวานนี้ (30 มิ.ย.) สถานีเรดาร์ที่นี่ก็สามารถจับความเคลื่อนไหวของเครื่องบิน Mig29 ของเมียนมา ที่ใช้อาวุธโจมตีชนกลุ่มน้อย แนวชายแดนไทย-เมียนมา และบินล้ำแดนไทย เข้ามาด้วยเช่นเดียวกับสถานีเรดาร์ที่กาญจนบุรี จึงได้รายงานไปยังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศดอนเมือง ก่อนที่จะสั่งการให้เครื่องบินเอฟ-16 จากกองบิน 4 ตาคลี นครสวรรค์ ขึ้นทำการบินสกัดกั้น และลาดตระเวนรบทางอากาศ


จากนั้น พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการวิจารณ์การปฏิบัติงานของกองทัพอากาศที่ปล่อยเครื่องบินรบประเทศเมียนมา ล้ำน่านฟ้าว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มีประชาชนและแฟนคลับแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์กันว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศดีหรือไม่ หรือเครื่องบินของ ทอ.มีไว้ใช้ในการแสดงวันเด็กหรือเปล่า หรือกระทั่งพูดว่าผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพอากาศมีวิจารณญาณในการตัดสินใจช้าเกินไปหรือไม่ ที่ท่านแสดงความเห็นก็มีส่วนถูกต้อง แต่ขอบอกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของเราดีมาก ไม่ใช่อย่างที่หลายคนแสดงทัศนะ เครื่องบินและนักบินของเราดี มีความรู้ มีประสบการณ์ และสุดท้ายการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็มีการตัดสินใจที่ดี ซึ่งการตัดสินใจที่ดีไม่ได้วัดกันที่ความรวดเร็ว

“ผมจะบอกตามตรงว่า ผมก็เหมือนกับทุกท่าน ผมก็เดือดเหมือนกัน บางทีอาจจะเดือดกว่าพี่น้องประชาชนอีกด้วย สิ่งที่เราดำเนินการไปแล้ว เราได้ประสานติดต่อกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศเมียนมา เพื่อขอให้กำกับดูแล ให้การปฏิบัติการอะไรก็แล้วแต่ในเขตแดนของท่าน ขอให้อยู่ในขอบเขต อย่าได้ล่วงล้ำเข้ามา ซึ่งผมก็ได้รับทราบถึงคำขอโทษ และเหตุผล จริงเท็จอย่างไรก็ให้ว่ากันไปก่อน เขาให้เหตุผลว่า เมื่อวานช่วงนี้สภาพอากาศไม่ดีจริงๆ และเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรก ที่ผ่านมาเขาก็ระมัดระวัง ประกอบกับภูมิประเทศ หากมองจากคนที่อยู่บนฟ้า บางทีอาจจะมองไม่เห็นว่าได้ผ่านล้ำ หรือตัดผ่านเข้ามาในบ้านของคนอื่น ซึ่งเขตแดนไทย เมียนมา ไม่ใช่สั้นๆ การข่าวของเราที่ดี เราก็รู้ล่วงหน้า แต่ไม่ว่าเราจะรู้ล่วงหน้า หรือรู้เฉพาะหน้าจากเรดาร์ เราก็ส่งเครื่องบินขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ภาพที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกร่วมกันของประชาชนชาวไทยที่ไม่ชอบ ถ้าผมเป็นเขาก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น “ พล.อ.อ.นภาเดช  กล่าว

พลอากาศเอก นภาเดช ยืนยันว่าเรามีระบบเรดาร์ตรวจจับและมีสายข่าวที่ดี สามารถรู้ได้ว่าเขาจะปฏิบัติการเมื่อใด ในพื้นที่ไหน หากรู้ล่วงหน้าก็จะส่งเครื่องบินขึ้นไปปฎิบัติการ Combat air patrol เพื่อแสดงท่าทีว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของเรา หรือหากตรวจพบก็จะส่งเครื่องบินขึ้นไปลาดตระเวนรบรักษาเขต และ air interception


“ขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในกองทัพอากาศอย่างเช่นที่เคยเชื่อมั่นมาตลอด และโปรดไว้วางใจเรา ผมก็เป็นเหมือนทุกท่านนั่นแหละ ที่รักชาติ จึงขอให้ความเชื่อมั่นว่าเครื่องบินที่เราส่งขึ้นไป การขึ้นไปของนักบินของเรา ยังพบว่าทางโน้นยังมีความพลั้งพลาด ด้วยเจตนาจงใจหรือไม่ก็ตาม เราจะดำเนินการในขั้นเด็ดขาด แต่ต้องคำนึงถึงสถานการณ์ใหญ่ ไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และไม่ทำให้เรื่องใหญ่ ให้ใหญ่ขึ้นไปอีก” พล.อ.อ.นภาเดช  กล่าว

เมื่อถามว่า หากมีอีกครั้งจะดำเนินการอย่างไร พลอากาศเอก นภาเดช กล่าวว่า โดยปกติการป้องกันภัยทางอากาศมี 3   ลำดับ คือ พิสูจน์ฝ่าย สกัดกั้น ทำลาย แต่เมียนมาคือเพื่อน ถ้าเพื่อนพลั้งเผลอเดินตัดสนามหน้าบ้านแล้วเราจะไปยิงเขาตายเลยก็เกินไป เพราะฉะนั้นการปฏิบัติการที่เหมาะสม จึงอยู่บนพื้นฐานเพื่อนปฏิบัติต่อเพื่อน ตนเชื่อว่าขณะนี้เขาตระหนักในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าในโซเชียลมีเดียได้พูดถึงเอฟ-35 หากมีประจำการในกองทัพอากาศไทย จะทำให้เมียนมาระมัดระวังการปฏิบัติการต่างๆ กว่านี้หรือไม่ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า ถ้าเราคิดจะมีของดี ตนไม่อยากให้คนไทยขัดขากันเอง เพราะจะพลาด ดังนั้น ร่วมสนับสนุนให้ได้มาจะดีกว่า ถึงแม้จะพลาด หรือไม่ได้ ก็ขอให้เป็นขั้นตอนที่สหรัฐไม่ขายให้จะดีกว่า ไม่ใช่ไปขัดขากันไปมา  เราพลาดในการต่อสู้ในยกแรก แทนที่จะเป็นในยกสุดท้าย อยากให้คนไทยสามัคคีกันในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมือง ขออย่าโยงเรื่องเหล่านี้ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกัน

เมื่อถามว่า ในช่วงเดือนนี้จะมีการประชุมชั้นกรรมาธิการ พิจารณางบประมาณ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ   พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า คุณสมบัติดีเด่น และข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างเครื่องบิน Generation ที่ 5 คือ F-35 กับ เครื่องบิน Generation ยุคที่ 4 ที่กองทัพอากาศมีข้อแตกต่างดังนี้ 1.ล่องหนหายตัวได้ เปรียบเสมือนการมีผ้าคลุมวิเศษของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คลุมแล้วไม่มีใครเห็น ระบบเรดาร์มองไม่เห็น ซึ่งคุณสมบัติตัวนี้น่าสนใจ ถ้ามีไว้ใช้งาน เราจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงมีไว้ป้องกัน เพราะประเทศใกล้บ้านเรามีแล้ว

2.การบินในท่าพิสดาร หรือขีดความสามารถบินได้หลากหลาย นำมาซึ่งยุทธวิธีและชัยชนะต่างๆ 3.มีระบบเซ็นเซอร์รอบตัว เช่น นักบินสามารถก้มมองทะลุถึงพื้นดินในขณะบินได้ 4. สามารถบินเดินทางระยะไกลด้วยความเร็วเสียง เพราะความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญของเครื่องบินรบ และ 5.สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในอนาคต ที่เปรียบเสมือนยานอวกาศที่มียานลูก และถูกควบคุมด้วยยานแม่ นอกจากนี้เครื่องบินใน Generation ที่ 5 สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องบินรบด้วยกันเองรวดเร็ว เป็นประโยชน์ก่อให้เกิดพลังอำนาจการรอบรู้มหาศาลจะส่งผลให้การดำเนินการใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการรบ ทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จ

“การที่เรามีเครื่องบินที่มีเทคโนโลยีใหม่ ที่เราไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และนั่นจะทำให้กองทัพอากาศของท่านหลุดพ้นจากภัยคุกคาม คือ ความล้าสมัย ไปสู่ความทันสมัย นั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการใช่หรือไม่ ขอให้ช่วยกันร่วมจิตร่วมใจ เพื่อให้ได้มีของดีใช้” พล.อ.อ.นภาเดช กล่าว .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย