ทำเนียบรัฐบาล 20 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ผลักดันนโยบาย BCG มุ่งสร้างรายได้กระจายสู่ประชาชนทั่วประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระจายรายได้สู่ประชาชน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ทั่วถึงเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน “โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG” ให้ครอบคลุม 7,435 ตำบล ทั่วประเทศ โดยจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Thailand Community Big Data : TCD) และทำให้ต่อเนื่องสมบูรณ์ทุกพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการต่อยอดผลสำเร็จจาก “โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ” (U2T for BCG and Regional Development) หรือ “1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย” (U2T BCG: University to Tambon) ในปี 2564 ซึ่งให้ผลตอบแทนทางสังคมกว่า 4.75 เท่า หรือประมาณ 50,000 ล้านบาท จากการจ้างงานมากกว่า 58,000 คน ส่งผลให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกว่า 10,088 กิจกรรม ในพื้นที่ 3,000 ตำบล ซึ่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ของภาคการผลิตและบริการด้าน BCG ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 15,000 กิจกรรม การเพิ่มการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ และประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการ Upskill/Reskill ทักษะพื้นฐานที่จำเป็น และทักษะที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ BCG เกือบ 70,000 คน การสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จาก 4,500 รายการ และการสร้างการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาทต่อเดือน
“นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าการประยุกต์นโยบายเศรษฐกิจ BCG จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพและยั่งยืน ซึ่งสินค้าและบริการของชุมชนต่าง ๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ “โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG” เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนกว่า 98 แห่ง ร่วมกับบัณทิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนภาคประชาสังคม หน่วยงานในพื้นที่ ขับเคลื่อนโครงการในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.นี้” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย