ทำเนียบรัฐบาล 10 พ.ค.-“จุรินทร์” เตรียมหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ใช้ วิน-วิน โมเดลดูแลราคาน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ตรึงราคาให้นานที่สุด ไม่ให้ขาดตลาด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาสินค้าขณะนี้ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ตลอด ต้องยอมรับความจริงว่าราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นบางรายการ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก ซึ่งมีผลกับต้นทุนการผลิตและราคาขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ไกล ต้องรับภาระเพิ่มขึ้น เพราะค่าขนส่งแพงขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์พยายามกำกับดูแลให้ดีที่สุด โดยดูจากต้นทุนเป็นหลัก
“สำหรับราคาหน้าโรงงานกำกับราคาไว้ให้เป็นภาระกับผู้บริโภคน้อยที่สุด แต่ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรที่ได้ราคาพืชผลเกษตรดีมาก เพราะขณะนี้พืชเกษตรราคาดีทุกตัวทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าวก็ราคาดีขึ้น เพราะปีนี้การส่งออกข้าวจะเพิ่มกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 6.1 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าส่งออกได้ 7-8 ล้านตัน เชื่อว่าช่วยให้ราคาข้าวดีขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริโภคเดือดร้อนเรื่องราคาน้ำมันปาล์มบริโภค เพราะราคาผลปาล์มดีมากขึ้น 11-12 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวดเพิ่มสูงขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์พยายามจับมือกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดแก้ปัญหา และกำกับราคาที่ไม่ให้สูงเกินกว่าราคาโครงสร้าง ซึ่งความจริงต้องตกประมาณขวดละ 76.50 บาท แต่พยายามกำกับราคาและปรับลดลงมาเหลือ 66.50 บาท
“แต่ก็มีสินค้าหลายตัวที่ราคาลดลงกว่าปีที่แล้ว เช่น ถั่วฟักยาว ราคาเฉลี่ย 55.50 บาท/กก. ปีที่แล้วเวลาเดียวกันราคา 62.78 บาท/กก. ผักกาดขาวปลี กิโลกรัมละ 31.50 บาท ปีที่แล้ว 32.50 บาท/กก. ต้นหอมปัจจุบันกิโลกรัมละ 65 บาท ปีที่แล้วราคา 68.50 บาท/กก. ผักชีประมาณกิโลกรัมละ 94 บาท ปีที่แล้ว 107.80 บาท/กก. ปลา เช่น ปลาดุกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 74.80 บาท แต่ปีที่แล้ว 85 บาท/กก.ซึ่งมีหลายตัวที่ราคาลดลง รวมทั้งราคาชุดนักเรียนอุปกรณ์การเรียนปีนี้ได้มีการจัด พาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน Lot 17 Back To School ลดสูงสุด 65% ส่วนที่เหลือจะตรึงราคาไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องปาล์มจะพยายามตรึงราคาให้ได้นานที่สุด โดยจะหารือร่วมกันระหว่างเกษตรกร ตัวแทนเกษตรกร ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งต้องการให้ราคาดีที่สุด แต่โรงงานต้องซื้อปาล์มราคาแพงขึ้น และทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) wx60 กว่าบาท/กก. แล้ว ส่งผลให้น้ำมันปาล์มขวดสูงขึ้น แต่เราพยายามกดราคาลงมาประมาณ 10 บาทต่อขวด แต่ทุกฝ่ายจะประชุมร่วมกัน
“ขณะนี้ตั้งหลักว่าเราจะช่วยดู 2 ส่วน 1.ราคาให้เดือดร้อนผู้บริโภคน้อยที่สุด เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ราคาดีที่สุด 2.เรื่องปริมาณไม่ให้ขาดแคลน และจะหารือว่าปริมาณสต๊อกควรอยู่ที่เท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นนอกจากจะเจอเรื่องราคาแล้วจะเจอเรื่องปริมาณเป็นปัญหาซ้ำสอง เราจะป้องกันช่วยดูแลทั้งสองข้อ จะประชุมทุกฝ่ายและหาข้อสรุปร่วมกัน ถ้ามีความจำเป็นต้องเข้าครม.ก็จะเข้า จะทำให้เร็วและใช้วิน-วินโมเดล เข้ามาดูแลทุกฝ่ายให้ดีที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
