ทำเนียบรัฐบาล 6 เม.ย.-นายกฯ ประชุมศบศ. เร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าไทย ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพิ่มสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีก 1 ล้านสิทธิ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 2/2565 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่าที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการและเห็นชอบเรื่องสำคัญได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอแนวทางการบริหารจัดการโดยคณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน
“เพื่อให้การติดต่อและขออนุญาตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีกลไกผลักดันการดำเนินการและอำนวยความสะดวก โดยจัดตั้งคณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.) เพื่อผลักดันมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย กำหนดแนวทางการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ เสนอแนะแนวทางปรับปรุงกระบวนงานและกฎระเบียบต่าง ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง โดยคสดช.จะจัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทยมีความพร้อมและสามารถมีผลบังคับใช้โดยเร็ว” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (สศส.) และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานความคืบหน้าการดำเนินการที่สำคัญได้แก่ มาตรการสร้างแรงจูงใจและอำนวยความสะดวก โดยการกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจลงตราวีซ่าให้แก่กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน การปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรให้ครอบคลุมกองถ่ายต่างประเทศให้ครอบคลุมทั้ง Pre- และ Post-production และการเตรียมการจัดตั้งศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์มาตรการส่งเสริมฯ ผ่านสื่อมวลชนในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งผ่านช่องทางเวทีการประชุมนานาชาติที่จะจัดขึ้นในประเทศ สื่อในต่างประเทศ และการร่วมงานในเวทีนานาชาติ โดยที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (สศส.) และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อให้มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศมีความพร้อมและสามารถมีผลบังคับใช้โดยเร็ว
นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) ในปี พ.ศ. 2571 ณ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นงานมหกรรมระดับโลก โดยประเทศเจ้าภาพจะได้รับประโยชน์ในทุกมิติ อีกทั้ง เห็นชอบขยายมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ได้แก่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพิ่มจำนวนสิทธิอีก 1 ล้านสิทธิ และขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการทัวร์เที่ยวไทยเป็นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2565 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการเป็นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2565 พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยใช้วงเงินงบประมาณเดิม อีกทั้ง ขยายระยะเวลาปีท่องเที่ยวไทย 2565 – 2566 (Visit Thailand Year 2022-2023: Amazing New Chapters) และ กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ Unfolding Bangkok ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
“ที่ประชุมเห็นชอบหลักการของ ร่างแผนพัฒนาและฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนฯ ภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนาเพื่อมุ่งสู่การเป็น “เมืองท่องเที่ยวแห่งความสุข ยั่งยืน และแบ่งปัน (Amazing Thailand, Amazing Andaman)” และรับทราบความคืบหน้าของ ร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก (Wellness Tourism World Class Destination) โดยได้วางเป้าหมายการพัฒนาในการเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสูงที่สุดของโลก ภายในปี 2570” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย