“สมศักดิ์” เร่ง ส.ว.พิจารณา กม.ความผิดทางเพศซ้ำ

ทำเนียบรัฐบาล 19 เม.ย.- “สมศักดิ์” เร่ง กมธ.ส.ว.พิจารณากฎหมาย JSOC ให้ทันเปิดสมัยประชุมสภา เชื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำทางเพศได้ โดยเฉพาะคดีข่มขืนอนาจาร ฆ่า ทำร้ายผู้อื่น และค่าไถ่ ย้ำต้องควบคุมให้อยู่หมัด


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือร่างกฎหมาย JSOC ว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงยุติธรรมเร่งรีบในการเสนอกฎหมาย นับจากการเสนอคณะรัฐมนตรีครั้งแรกไปสู่วุฒิสภาใช้เวลาเพียง 9 เดือน จากปกติที่กฎหมายจะใช้เวลา 2 ปี ทั้งนี้ การที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือน เนื่องจากมองเห็นปัญหาสังคม ดังนั้น ตนจึงขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นความสำคัญของกฎหมายเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ เพราะวันสุดท้ายของสมัยประชุมสภาได้เข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาเป็นวาระแรก ถือว่า ใช้เวลาค่อนข้างเร็ว ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.  วุฒิสภา พิจารณาให้เสร็จโดยเร็วก่อนที่สภาจะเปิด เพราะเมื่อสภาเปิดแล้วจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ในที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อให้ออกมาเป็นกฎหมาย แต่กว่ากฎหมายจะบังคับใช้ได้ ก็ต้องออกกฎหมายรองหรือประกาศของแต่ละกระทรวงตามมาอีก ซึ่งระยะเวลาของสภาก็เหลือไม่กี่เดือนแล้ว แล้วคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. …  วุฒิสภาจะชักช้าไว้ทำไม

เมื่อถามว่า กฎหมาย JSOC จะสามารถรองรับและใช้กับเหตุล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้หรือไม่ และจะช่วยป้องกันได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็สามารถป้องกันการกระทำผิดซ้ำได้ เพราะหากเกิดกรณีแรก แล้วยังเกิดกรณีสอง แสดงว่าเราไม่ได้ป้องกัน เพราะไม่มีกฎหมายลักษณะนี้เลย ซึ่งกฎหมายนี้จะป้องกันการกระทำผิดครั้งที่สอง ด้วยการเฝ้าระวังหลังพ้นโทษอีก 10 ปี โดยการเฝ้าระวังตามธรรมดาจะใช้กำไลอีเอ็มติดตาม 10 ปี พร้อมมีอาสาสมัครคุมประพฤติ และอาสาสมัครของแต่ละหน่วยงานของทางราชการช่วยกันติดตาม แต่หากในขณะที่เฝ้าระวังติดตามกลับมีการแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรออกมาที่ผิดปกติ ก็สามารถขอให้คุมขังต่อได้ โดยคุมประพฤติขออำนาจศาลคุมขังได้ 7 วัน จากนั้น คุมประพฤติขอผ่านอัยการไปถึงศาลได้คราวละ 3 ปี ส่วนที่สังคมจะวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นอื่น เช่น ฉีดให้ฝ่อ ก็ยังเป็นประเด็นรองลงมา แต่ประเด็นหลักคือการเฝ้าระวังโดยใช้กำไลอีเอ็มติดตัวผู้พ้นโทษ ทั้งนี้ เป็นการควบคุมบุคคลที่ทำผิดใน 12 มาตราของกฎหมายอาญา ประกอบด้วย ในกลุ่มแรก 6 มาตราเกี่ยวกับเรื่องของการข่มขืนอนาจาร อีก 5 มาตรา เกี่ยวกับเรื่องการฆ่าหรือทำร้ายผู้อื่น และอีก 1 มาตราเกี่ยวกับการเรียกค่าไถ่ ดังนั้น จึงต้องควบคุมคนเหล่านี้ให้อยู่หมัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ฝนถล่มอยุธยา บ้านพังครืน เจ็บ 3 คน

ฝนถล่มอยุธยา ลมแรงพัดบ้านไม้พังครืน ทับคนในบ้านเจ็บ 3 คน เผยนาทีระทึก! ได้ยินเสียงไม้ลั่น ก่อนบ้านพังถล่มลงมาทั้งหลัง ด้านกรมอุตุฯ เตือนอากาศแปรปรวนช่วงเปลี่ยนฤดู 18-24 ก.พ.นี้

“หมอธวัชชัย” หอบหลักฐานส่งผ้าขาว-โทรศัพท์โคลนนิ่งให้ดีเอสไอ

“หมอธวัชชัย” หอบหลักฐานส่งผ้าขาว-โทรศัพท์โคลนนิ่งจาก “บังแจ็ค” ให้ดีเอสไอ พร้อมเผยตัวการส่งหลักฐานเก๊

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

“สส.ปูอัด” รับทราบข้อกล่าวหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” รับทราบข้อกล่าวหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า วันนี้มาขอทราบรายละเอียดของข้อหา