คุมประพฤติยอดสะสม 3 วัน 2,807 คดี

กทม. 14 เม.ย.-อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยสถิติ 3 วัน คดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ มีทั้งสิ้น 2,807 คดี ขับรถขณะเมาสุรา 2,334 คดี ขับเสพ 455 คดี ขับรถประมาท 18 คดี

วันนี้ (14 เมษายน 2565) นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึง สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 3 ของ 7 วันอันตราย (13 เมษายน 2565) มีคดีทั้งสิ้น 1,225 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,083 คดี ศาลสั่งติด EM 7 ราย คดีขับรถประมาท 5 คดี คดีขับเสพ 137 คดี สุรินทร์ยังคงครองคดีเมาขับอันดับหนึ่ง 190 คดี รองลงมา กรุงเทพมหานคร 131 คดี และ อุบลราชธานี 123 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีในวันที่ 3 ของ 7 วันอันตรายปี 2564 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,398 คดี และปี 2565 จำนวน 1,083 คดี ลดลง จำนวน 315 คดี คิดเป็นร้อยละ 22.53


ในส่วนการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM กับผู้กระทำผิดเมาแล้วขับมีตัวเลขสะสม 3 วันอยู่ที่ 9 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00-05.00 น. เป็นระยะเวลา 7 วัน ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center – EMCC) พร้อมประสานเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมพร้อมลงพื้นที่หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ

สำหรับยอดสะสม 3 วันของ 7 วันอันตราย (11-13 เมษายน 2565) 2,807 คดี จำแนกเป็น


  • คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,334 คดี คิดเป็นร้อยละ 83.15
  • คดีขับเสพ 455 คดี คิดเป็นร้อยละ 16.21
  • คดีขับรถประมาท 18 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.64

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น จำนวน 78 จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย ศูนย์เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ประชาชนและผู้ถูกคุมความประพฤติ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 1,485 คน ร่วมกันแจกน้ำดื่ม ทำความสะอาด ตรวจวัดอุณหภูมิ เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้สำนักงานคุมประพฤติได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสำนักงานคุมประพฤติช่วงวันหยุดยาว เพื่อให้คำแนะนำด้านกฎหมาย บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ