“ศิธา ทิวารี” ชู 3 P – บำนาญประชาชน

กรุงเทพฯ6 เม.ย.- “ศิธา ทิวารี” ชู 3 P – บำนาญประชาชน ย้ำไม่มีฮีโร่ แต่ทุกคนคือผู้สร้างเมือง ประกาศแพ็กเกจ นโยบายทางสังคม โดยคนกรุงร่วมกำหนด ปรับลด ปลด ย้าย ข้าราชการและงบประมาณ ย้ำจะทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯ ไม่เคยทำ


น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย ร่วมเวทีเสวนาสาธารณะ “เสนอไป-แถลงมา นโยบายทางสังคมของผู้ว่าฯ กทม.” จัดโดย สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ฯ

น.ต.ศิธา กล่าวถึงนโยบาย 3 P คือ people การสร้างคน , Profit สร้างมหานครแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และ Planet สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน ซึ่งคนทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการสร้างเมือง ผ่านการเสนอโครงการที่ตรงกับความต้องการของพื้นที่, การมีส่วนจัดสรรงบประมาณ ตลอดจนการ ปรับลดปลดย้ายข้าราชการด้วย


“เมืองไม่สามารถสร้างได้ด้วยซูเปอร์ฮีโร่ 1 คน ผู้คนต่างหากที่เป็นคนสร้างเหมือง NGO, คนที่ทำงานเพื่อสังคม คุณคือคนที่มีความรู้มีความคิดดีๆที่ทำให้กับเมือง กฎหมายอันไหนที่บล็อก ก็ต้องแก้ไข อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เราจะร่วมสร้างคนสร้างเมืองไปด้วยกัน คือแคมเปญที่บอกว่า ผมจะทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยทำ” น.ต.ศิธา กล่าว

น.ต.ศิธา ยืนยันว่า ต้องให้โอกาสผู้หญิงในการเปลี่ยนและสร้างประชาชนที่มีคุณภาพให้กับประเทศ การลงทุนกับเด็กและการศึกษา ที่คนมักจะพูดถึง ความเป็นเลิศทางด้านการศึกษา แต่ความเป็นเลิศอาจจะเป็นบ่อเกิดของความไม่เท่าเทียมกันได้ ดังนั้น ตนจะทำให้โรงเรียน กทม.ทุกแห่งมีคุณภาพทัดเทียมเท่ากับโรงเรียนเอกชน มีอาหารที่ปลอดภัยถูกสุขลักษณะ

น.ต.ศิธา ยังระบุว่า ผู้พิการคือคนที่กำลังถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลัง การลงทุนผ่านสิ่งปลูกสร้างที่ลงทุนเป็นพันเป็นหมื่นล้าน ถ้าเจียดมาแค่ไม่ถึง 5% ที่ใช้มาดูแลก็เพียงพอและทำในสิ่งปลูกสร้างให้สามารถไปใช้ร่วมกันได้ ดังนั้น ผู้ว่าฯกทม. ทำได้ 2 อย่างคือ ไม่กดทับอัตลักษณ์ที่แตกต่าง กับปลดปล่อยให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนอื่น ซึ่งความคิดความอ่านของคนพิการไม่ได้ด้อยกว่าคนปกติเลย เราจะเห็นว่าคนที่เขาเสียเปรียบบางอย่างในสังคม เขาจะทุ่มเทในทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำให้เขาสามารถที่จะกลับเข้ามาอยู่กับมันได้ เขามีความคิดที่จะพัฒนา แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองตั้งแต่ระดับรัฐบาล ,กทม.ไม่เคยเห็นความสำคัญ


น.ต.ศิธา กล่าวว่า ตนมีแนวคิดจะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เทศกิจ จากคนที่ไปตรวจสอบเอาผิดหาบเร่แผงลอยให้มาสนับสนุนให้ชาวบ้านทำมาหากินได้ ส่วนคำถามที่บอกว่า อยากเป็นหุ้นส่วนในการสร้างกรุงเทพฯ เวลาได้เป็นผู้ว่าแล้วจะได้เจอกันไหมนั้น

“ผมบอกเลยว่า ท่านจะเจอจนเบื่อ กระทั่งบอกว่าผู้ว่าฯ มาอีกแล้วเหรอ?…คลังสมองของผมคือคนที่ทำงานเพื่อสังคมทุกคน คือ NGO คือคนกลุ่มต่างๆ โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเอาความคิดเห็นทั้งหมดมาช่วยในการกำหนดงบประมาณของ กทม. มาช่วยในการ เลื่อนลดปลดย้ายข้าราชการ กทม. ในทุกส่วน” น.ต.ศิธา กล่าว

น.ต.ศิธา ย้ำด้วยว่า ตนเป็นอดีตข้าราชการเข้าใจระบบงานราชการและเป็นอดีต ส.ส. ซึ่งคลุกคลีกับชุมชนเมือง โดยเฉพาะพื้นที่คลองเตย รวมถึงเครือข่ายสลัม 4 ภาค จึงเข้าใจความทุกข์ยากโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและต้องการสร้างสวัสดิการให้ประชาชน ตนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่สังกัดพรรคการเมืองอย่างเปิดเผย โดยพรรคไทยสร้างไทย เสนอและจะผลักดัน “บำนาญประชาชน” เป็นพรรคแรก ตาม concept ที่ไม่ได้ช่วยผู้สูงอายุอย่างเดียว แต่จะ “สร้างความมั่นคงให้ผู้สูงวัยและจะสร้างความสุขใจให้ลูกหลาน” ส่วน “กองทุนพัฒนาสตรี” ยืนยันว่า สามารถจัดงบฯไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทจาก 80,000 ล้านบาทที่ กทม. มีอยู่มาดำเนินการได้อย่างแน่นอน ตนว่าต่ำกว่าร้อยล้านไม่ได้ และมีความจำเป็นต้องใช้ ตนเชื่อว่ามากกว่า ส่วนจะมากกว่าเท่าไหร่ตัดสินใจอย่างไร มีระบบเทคโนโลยีมาใช้ เอาประชาชน เอาคนที่มีส่วนร่วม คนที่มีส่วนได้เสีย คนที่มีความรู้ในแต่ละด้าน คนที่มีจิตอาสาในเรื่องที่ตัวเองทำมาทั้งชีวิตแล้วไม่เคยได้รับการตอบสนองจากภาครัฐ มาเป็นผู้ที่ร่วมใจร่วมคิดร่วมทำกับ กทม. และกำหนดนโยบายถ้ากำหนดออกมาแล้ว ในการจัดสรรงบฯ ถ้าไม่พอก็ต้องขอจากรัฐบาลหรือว่าจัดเตรียมงบฯ ตรงไหนมา เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำได้แน่ๆ และเราให้มากกว่า 100 ล้านแน่นอน

ส่วนจุดเสี่ยงใน กทม. ซึ่งมีภาคประชาสังคมสำรวจแล้วพบกว่า 600 จุด แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นความล้มเหลวของระบบราชการ ถ้าตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. จุดเสี่ยงที่เพิ่มเข้าไม่ว่าเท่าไหร่ จะต้องลดลงตลอด ซึ่งมีการวางระบบและบุคลากรดูแลใช้งบประมาณจุดละ 10,000 บาทต่อเดือน หากมี 600 จุดก็เท่ากับ 6 ล้านบาท ซึ่งความจริงสามารถจัดงบประมาณดูแลแต่ละแห่งให้มากกว่านี้ได้

น.ต.ศิธา ยังกล่าวถึงศูนย์เด็กเล็กใน กทม. ด้วยว่า เกี่ยวพันกับปากท้องของประชาชนที่เป็นพ่อแม่ จึงจะต้องบริหารให้พ่อแม่อุ่นใจว่าลูกได้ทั้งความรู้ความปลอดภัยโภชนาการและมีการออกกำลังกาย ส่วนผู้หญิงที่มีลูกจะต้องได้ลดเวลางาน เพื่อที่จะกลับไปดูแลลูก โดยจะนำนโยบายด้านสังคมของพรรคไทยสร้างไทย เข้ามาบรรจุใน กทม. และเสนอต่อรัฐบาลด้วย

น.ต.ศิธา ยืนยันว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะผลักดันบทบาทของสตรี ในองค์กรต่างๆ ให้ขึ้นมาทำหน้าที่มากยิ่งขึ้น โดยนำร่องระบบบริหารองค์กรอัตโนมัติ หรือองค์กรที่กระจายอำนาจ ให้องค์กรที่ทำงานด้านผู้หญิง เป็นผู้เสนอตัวบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำงาน ซึ่งจะมีเทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ ที่ทุกคนสามารถออกความเห็นโดยที่ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขหรือบิดเบือนได้ และคณะทำงานต้องทำงานเพื่อคน กทม.โดยคน กทม.เป็นผู้กำหนด ซึ่งจำเป็นต้องทุบหม้อข้าวของนักการเมืองหรือผู้แสวงหาประโยชน์ทางการเมือง โดยหลักคิดพรรคไทยสร้างไทย ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และสร้างพลังให้ประชาชน EMPOWER และการปลดปล่อย LIBERATE พันธการจากรัฐราชการ และกฎหมายที่กดทับโอกาสโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย

“ผมไม่ได้ต้องการที่จะตั้งคณะทำงานของผู้ว่าฯ กทม.มาเพื่อจะมาสนับสนุนพรรคการเมือง ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อจะมาถอนทุน และผมไม่ต้องไปตอบแทนบุญคุณใครหรือนายทุน เพราะพรรคไทยสร้างไทย เราทำของเรา ในระบบของเราเอง” น.ต.ศิธา ระบุ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

อธิการบดี ม.สยาม ยันไม่เกี่ยวข้องคอร์สอบรมอาสาตำรวจ

อธิการบดี ม.สยาม แถลงโต้ หลังตกเป็นข่าวมีคอร์สอบรมอาสาตำรวจคนจีนในมหาวิทยาลัย ลั่นมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมดำเนินคดีกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบนายกฯ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันภัยจาก online scams

“เม้งการยาง” ยันไม่ทราบขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น

“เม้งการยาง” พบตำรวจไซเบอร์ เผยไม่ทราบว่าขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น หลังถ่ายรายการยังให้เงินน้องไป 2,000 บาท ด้าน “เมลาย รัชดา” เผยจะเลิกคอนเทนต์ขยะ และเลิกจัดทริปน้ำไม่อาบ

“ภูมิธรรม” ขอไม่ลงรายละเอียด ช่วย 4 ลูกเรือประมงไทย

“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม เผยปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ต้องรอจบกระบวนการ ย้ำรัฐบาล-กต.ประสานอยู่ตลอด แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะอาจกระทบการเจรจา