“วิโรจน์” ขึ้นเวทีดีเบต เน้นรัฐสวัสดิการเป็นคำตอบการพัฒนา

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.- “วิโรจน์” ขึ้นเวทีดีเบต ยืนยัน 12 นโยบายหลักโอบรับทุกความหวัง มั่นใจการสร้างเมืองที่คนเท่ากัน คือ ประตูด่านแรกในการสร้างเมืองแห่งอนาคต เน้นรัฐสวัสดิการเป็นคำตอบของการพัฒนา


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เข้าร่วมเวทีเสวนาสาธารณะ “เสนอไป-แถลงมา นโยบายทางสังคมของผู้ว่าฯ กทม.” วันพุธที่ 6 เมษายน 2565 ณ สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ พญาไท ร่วมรับฟังข้อเสนอและข้อเรียกร้องจากตัวแทนกลุ่มสตรี เด็กเล็ก ผู้พิการ และแรงงาน โดยข้อเรียกร้องเชิงนโยบายบางส่วนเป็นข้อเรียกร้องเชิงนโยบาย เช่น สวัสดิการการทำงบประมาณและนโยบายที่คำนึงถึงความเสมอภาคทางเพศ (gender budgeting) กองทุนคุ้มครองผู้สูงอายุ บริการสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุ คนพิการ ปัญหาแรงงานนอกระบบ การเยียวยาและช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด รวมถึงการจัดการประเด็นด้านเด็กและเยาวชน อย่าง ปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ฯลฯ

นายวิโรจน์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ถึงนโยบายด้านสวัสดิการ ได้แก่


(1) สวัสดิการคนเมือง โอบอุ้มเด็ก คนชรา ผู้พิการ นายวิโรจน์ เสนอให้ใช้งบ กทม. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จากที่รัฐบาลให้อยู่แล้ว เป็น 1,000 บาท/คน เท่าเทียมกัน เพิ่มสวัสดิการคนพิการ เป็น 1,200 บาท/คน เพิ่มสวัสดิการเลี้ยงดูเด็กเล็ก 0-6 ปี เป็น 1,200 บาท/ คน โดยจะจัดสรรงบประมาณผ่านการเก็บภาษีที่ดินให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อให้ กทม. สามารถสนับสนุนสวัสดิการให้ประชาชนคนกรุงเทพได้

(2) วัคซีนฟรี จากภาษีประชาชน นายวิโรจน์ ยกตัวอย่าง วัคซีนที่ทาง กทม. จะให้บริการประชาชนฟรี ได้แก่ วัคซีนโรคปอดอักเสบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโรคไข้เลือดออก ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยอธิบายว่าการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ จะลดจำนวนผู้ป่วยติดเตียง และป้องกันไม่ให้ผู้สูงวัยเจ็บป่วยหนักได้

(3) ลงทุนศูนย์ละ 5 ล้าน อัพเกรดศูนย์เด็กเล็ก กทม. ให้มีคุณภาพเท่าเอกชน นายวิโรจน์ ยืนยันว่าตั้งใจจะลงทุนปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์ละ 5 ล้านบาท ตลอด 4 ปี พร้อมจัดทำสัญญาจ้างประจำครูและพี่เลี้ยงประจำศูนย์ เพิ่มครูสำหรับเด็กพิเศษที่พัฒนาการช้า พร้อมทั้งเพิ่มศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เพื่อลดภาระผู้ปกครองและแก้ปัญหาพื้นที่ขาดแคลน โดยไม่ต้องให้ผู้ปกครองต้องเดินทางไกลเพื่อพาเด็กเล็กไปไว้ไกลบ้าน


นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา มายาคติของเมือง ผลักให้คนกรุงเทพต่อสู้ ทำงานอย่างหนัก เกิดคนจนเมือง โดยไม่มีนโยบายสวัสดิการโอบรับ แต่นโยบายของวิโรจน์พร้อมทลายมายาคตินั้น เพราะการมีรัฐสวัสดิการจะช่วยให้คนกรุงเทพไม่ต้องกังวลแบกภาระในด้านต่างๆ ทั้งรายได้ที่ไม่พอรายจ่าย ทั้งจำนวนผู้สูงอายุในครอบครัว หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริการสาธารณะ ทุกคนจะกล้าใช้ชีวิต จะกล้าเดินตามความฝันโดยไม่พะว้าพะวงกับปัญหาที่เกิดจากการทอดทิ้งผู้คน และทำให้กรุงเทพเป็นเมืองแห่งความหวังในที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น