กทม. 5 เม.ย.- “สุชัชวีร์” ลงพื้นที่ย่านดุสิต ย้ำนโยบายขายของได้ทุกวัน พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำล้างมือในแหล่งค้าขาย วอนหาเสียงสร้างสรรค์ไม่ทำลายป้ายคู่แข่ง
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 ลงพื้นที่แนะนำตัวที่ตลาดศรีย่าน เขตดุสิต ร่วมกับผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 9 นายดนัยเทพ ศรีธัญรัตน์ ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีพ่อค้า แม่ค้าชวนพูดคุยสะท้อนปัญหาตลอดทาง โดยเฉพาะเรื่องการต้องหยุดขายของวันจันทร์ ในเรื่องนี้นายสุชัชวีร์ กล่าวว่าได้ประกาศนโยบายไปแล้ว ว่า พ่อค้าแม่ค้าจะต้องขายของได้ทุกวัน โดยที่ กทม. ต้องดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อย เพราะมีความเข้าใจ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน และวันจันทร์ก็ยังต้องรับประทาน แต่หาซื้อของลำบาก โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ผู้ขายมีรายได้หายไปวันนึงเต็มๆ ขณะที่วันจันทร์เป็นวันทำงานซึ่งมีลูกค้า ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเสียโอกาส
นอกจากมีนโยบายที่จะให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของได้ทุกวันแล้วจากการที่ได้ลงพื้นที่ครบ 50 เขต ยังเห็นว่าในแหล่งค้าขายจำเป็นต้องติดตั้งก็อกน้ำ สำหรับล้างมือและทำความสะอาดได้ เพื่อให้บริการทั้งพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชน
ส่วนปัญหาเรื่องขยะ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่าเขตดุสิต น่าเห็นใจมาก เพราะขยะจากเขตนี้ต้องเดินทางไกลถึงเขตสายไหม ทำให้ไม่สามารถจัดเก็บได้ถี่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีรถขยะให้เพียงพอ และต้องเป็นรถขยะขนาดเล็กสามารถเข้าตามซอกซอยได้อย่างทั่วถึง ซึ่งก็จะทำให้ความสามารถในการจัดเก็บขยะทำได้เร็วขึ้น บ่อยขึ้น ทั่วถึงมากขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการเกี่ยวกับปัญหาการทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัคร นายสุชัชวีร์ ได้นำภาพป้ายหาเสียงที่ถูกทำลายขึ้นแสดงให้สื่อมวลชน พร้อมกับกล่าวว่า ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผู้สมัครรายใด การเลือกตั้งก็เหมือนกับกีฬา ควรจะเป็นการแข่งขันที่สร้างสรรค์ ป้ายที่ถูกทำลายดังกล่าวตั้งอยู่ที่ เขตดอนเมือง พหลโยธิน 60 กลางเมือง บริเวณป้ายรถเมล์ แต่ไม่สามารถหาตัวคนทำลายได้
พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้เป็นการทำลายป้ายหาเสียง แต่หากเป็นพี่น้องประชาชนถูกทำร้ายบริเวณดังกล่าวก็หาตัวคนร้ายไม่ได้ใช่หรือไม่ เห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยน ดังนั้นถ้าตนเป็นผู้ว่าฯ หากมีเหตุการณ์อะไรเราต้องรู้ทันที กทม. มีระบบกล้องวงจรปิดหลายหมื่นตัวแต่ไม่เชื่อมต่อกัน เรื่องนี้ตนมีนโยบายติดตั้งไวไฟฟรี 1.5 แสนจุดทั่วกรุงเทพฯ นอกเหนือจากการให้ทุกคนมีความเท่าเทียมในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตฟรีแล้ว ยังทำให้กล้องวงจรปิดแต่ละตัวเชื่อมโยงกันได้ทันที ซึ่งจะทำให้คนร้ายไม่กล้าก่อเหตุ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้นั้นเขากล้าทำ เพราะคิดว่าทำแล้วไม่มีใครเห็น
“เหตุการณ์นี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้สมัครรายใด กรุงเทพฯ นี่ยังไม่เปลี่ยนเลย แล้วถ้าเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนที่หน้าป้ายรถเมล์แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย มองว่าน่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่า เพราะถ้าเป็นการกีดขวางทางสัญจร ก็สามารถร้องเรียนได้ แต่การไปกรีดเอาหัวออกไปแบบนี้มันรุนแรงเกินไป ไม่ควรให้เกิดขึ้นกับใคร ถ้าผมมีโอกาสเมื่อไหร่คนกรุงเทพฯ คนเดินถนน คนเดินเท้าต้องปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องกล้องวงจรปิด แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็จะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้” สุชัชวีร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการปรับโฉมป้ายหาเสียงใหม่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่าเมื่อวานไปรื้อป้ายของตัวเองที่เขตพญาไท และจะเห็นว่าป้ายยังน้อยมากๆ เพราะเราตั้งใจติดป้ายให้จำกัด ไม่ติดป้ายให้เยอะจนเกินไปจนรกหูรกตาเกิน นอกจากนี้ป้ายของตนมีหลายแบบมาก มีขนาดเล็ก ซึ่งตั้งใจมาตั้งนานแล้ว ขอให้รอชม มีหลายแบบมาก กำลังดำเนินการอยู่ .- สำนักข่าวไทย