เปิด Smart Park ระยองขับเคลื่อนอีอีซี

ทำเนียบรัฐบาล 31 มี.ค.-นายกฯ เปิดนิคมอุตสาหกรรม Smart Park ระยอง ขับเคลื่อนพื้นที่อีอีซี ย้ำไทยต้องวางตัวให้เหมาะสมเพื่อได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศปลื้มยอดจองซื้อรถไฟฟ้างานมอเตอร์โชว์ สะท้อนศักยภาพประเทศ


พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง ผ่านระบบ Video Conference จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมSmart Park เป็นส่วนหนึ่งของโครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งมุ่งหวังร่วมกันที่จะให้เกิดการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคใหม่ นำไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคตโดยเร็วที่สุด

“รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอีอีซีอย่างต่อเนื่อง เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีนวัตกรรมและมีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต จะทำให้ก่อเกิดการขยายตัวการลงทุน และมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องประเภทอื่น ๆ ในพื้นที่อีอีซี หากโครงการดังกล่าวสำเร็จจะก่อให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมของประเทศ และยังมีส่วนพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่น ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้โครงการต่าง ๆ ของอีอีซีมีความก้าวหน้า เป็นที่น่าชมเชย แล้วเสร็จตามแผนเป็นที่น่าพอใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันและส่งเสริม การพัฒนาโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ด้านอุตสาหกรรม และประชาชนคนไทยทุกด้าน เพื่อทำให้อีอีซีและประเทศไทยของเรานั้นเป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่สำหรับนักลงทุน แต่รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างความเข้มแข็ง ให้เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน การดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงความเชื่อมโยงทุกมิติ สร้างความสมดุลทุกด้านอย่างครอบคลุม ทำอะไรต้องตอบโจทย์เรื่องอื่นด้วย

“เป็นประเด็นและเป็นวาระสำคัญของชาติและของรัฐบาล คือ ทำอย่างนึงก็ต้องได้อีกสองถึงสามอย่างตามมาทั้งหมด ให้ครอบคลุมทั้งเรื่องการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมขับเคลื่อนการทำงาน สำคัญที่สุดคือการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดเศรษฐกิจบีซีจี คำนึงถึงเรื่องพลังงานสะอาด การอยู่ร่วมกับชุมชน เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมนั้นเราต้องพัฒนาควบคู่กับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน การเรียนรู้ให้เกิดความร่วมมือ เพราะโครงการต่าง ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบ หรือไม่ได้รับความพึงพอใจจากประชาชนในพื้นที่ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คาดหวังว่าจะเกิดอุตสาหกรรมแบบนี้ในภาคอื่น ๆด้วย หากมีนิคมอุตสาหกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในทุกภาคของประเทศ ก็จะเกิดการจ้างงาน แก้ปัญหาความแออัดในเมืองใหญ่ คนจะไม่ทิ้งบ้านทิ้งถิ่น และเป็นการพัฒนาที่เชื่อมโยงกัน รัฐบาลมีหลายนโยบาย หลายเรื่องที่ต้องทำในเวลานี้ ที่จะทำให้เกิดแรงผลักดันพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้พบกับนายอาคิม สไตเนอร์ (Mr. Achim Steiner) รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้บริหารสูงสุดของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ซึ่งตนเล่าให้ฟังว่าประเทศไทยทำอะไรไปบ้าง ทั้งในเรื่องของคน เศรษฐกิจ สุขภาพ ซึ่งเขาก็พอใจ ได้เห็นว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศของเรา ที่มีความก้าวหน้าชัดเจน มีแผนงาน มีแนวปฏิบัติที่ดี จึงอยากฝากทุกคนให้ช่วยกันภูมิใจด้วย เขาชื่นชมประเทศไทย

“เราบอกเขาว่าเราไม่ได้ทำเพื่อประเทศไทยอย่างเดียว เราทำเพื่อภูมิภาค และประเทศอื่นๆที่จะต้องเจริญเติบโตไปด้วยกัน สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ที่น่าเป็นห่วงก็คือสถานการณ์ความขัดแย้ง ต่างๆเหล่านี้ ทำให้เกิดปัญหาที่ยึดโยงและเชื่อมโยงกัน เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ได้ การทำวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งที่ยังมีหลายจุดที่จะต้องทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากเปรียบเทียบประเทศเราหรือคนของเราเป็นต้นไม้ต้นหนึ่ง เราต้องทำให้ต้นไม้นี้เข้มแข็ง และเจริญเติบโต ดูแลราก ทั้งรากฝอย รากแก้ว ให้แข็งแรงเพื่อพยุงต้นไม้ให้โตขึ้น ออกดอก ออกผล ออกลูก ออกหลาน ต่อไป ให้เราได้ใช้ประโยชน์ ได้กิน ได้ขาย ดังนั้นเราต้องทำให้เข้มแข็ง ทั้งระดับฐานราก และลำต้น นี่คือสิ่งที่ตนคุยกับเขาเพื่อให้เขารู้ ว่าเราคิดของเราอย่างไร และจะทำให้ต้นไม้ต้นนี้เติบโตอย่างไร และต้นไม้หรือประเทศของเราต้องมีรากเหง้า ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว

“เราต้องทำให้เกิดความร่วมมือให้มากที่สุด การทำในสิ่งใหม่ ๆ ไม่ใช่สิ่งที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินกว่าที่พวกเราจะทำได้ ผมเชื่อมั่นในพวกท่านทุกคน เรามีวิจารณญาณที่ดี มีความหวังดี ที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น ทำให้ประชาชนเราหลุดพ้นจากความยากจน ถือเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ที่ผ่านมาเกิดขึ้นแล้วสองสถานการณ์ คือ โควิด-19 กับสถานการณ์สู้รบความขัดแย้ง นี่คือเปรียบเหมือนเราปลูกต้นไม้ที่มีแมลงเข้ามา ซึ่งเราต้องปกป้องและดูแลต้นไม้ของเรา วางตัวเราให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม ที่จะให้เกิดความร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือของคนไทยทุกคน ขอให้ทุกคนมีกำลังใจต่อสู้กับความท้าทาย อันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อลูกหลานในอนาคตเพื่อต้นไม้ต้นเล็ก ต้นน้อย ที่จะเติบโตไปจนกระทั่งแข็งแรง จนเป็นต้นไม้ เติบใหญ่ทั้งประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยินดีคือการจัดงานมหกรรมยานยนต์ “มอเตอร์โชว์ 2022” ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงแรกยังกลัวว่าจะมีปัญหาคนจะมาน้อย ปรากฏว่าคนมากันตรึม ตน ก็ได้ให้แก้ปัญหาเรื่องการจราจร การคัดกรองก่อนเข้างาน และยินดีที่มี สถิติการจองรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงว่าศักยภาพเรายังมีอยู่ ดังนั้นก็ต้องเป็นไปด้วยกันทั้งรัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน หากทำเช่นนี้ได้ และเพิ่มผลผลิตได้ อีกหลายสิ่งอย่างก็จะตามมาอีกมาก ขอขอบคุณทุกคนที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องสิทธิมนุษยชนในการประกอบธุรกิจ คือการเคารพ คุ้มครอง และเยียวยา ที่จะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ทั้งผู้ประกอบการประชาชน ต้องช่วยกันดูแลให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดความขัดแย้งกันโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]