รัฐสภา 21 มี.ค.-กมธ.สิทธิฯ เรียกตร.- นิติเวช แจงคดี “แตงโม นิดา” แนะนำ 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ หลังให้การไม่ตรงกัน ประชุมนัดแนะหลังเกิดเหตุ
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์มาชี้แจง ทั้งพ.ต.อ. อดิศร บุญประทีป ผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุกสิก ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ พาลี พิสูจน์หลักฐานตำรวจในที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.ทศพร ทับทิม สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักบัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี นายเต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ดาราซึ่งเป้ฯเพื่อนสนิทของแตงโมร่วมให้ข้อมูลในฐานะตัวแทนของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโม ซึ่งการประชุมวันนี้กรรมาธิการไม่ให้สื่อมวลชน เข้าสังเกตการณ์ เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างกำลังอยู่ในสำนวนคดี
หลังใช้เวลาซักถามนานกว่า 2 ชั่วโมง นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการพร้อมด้วยกรรมาธิการได้แถลงร่วมกับนายเต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร โดยนายสมชาย กล่าวว่า วันนี้กรรมาธิการฯ ได้รับผลผ่าพิสูจน์ศพของแตงโมแล้วทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผลการตรวจสอบครั้งที่ 1 และ 2 ใกล้เคียงกัน ไม่พบร่องรอยของการถูกทุบศีรษะและฟันไม่หัก ส่วนแผลที่ขาเกิดก่อนเสียชีวิต กำลังรอผลตรวจชิ้นเนื้อว่าโดนอะไร
“ส่วนการให้ข้อมูลของฝ่ายตำรวจ กรรมาธิการฯ พบว่าการสอบปากคำยังไม่ครอบคลุม การให้การขัดกันกับหลายสิ่งหลายอย่าง จึงฝากให้ตำรวจนำคนบนเรือทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จ พร้อมเตือนคนบนเรือที่ให้การไม่ตรงกันว่าบางคนตอนนี้อาจยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่การให้การที่ไม่ถูกต้องถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตอนนี้ปรากฏภาพชัดเจนว่าหลังเกิดเหตุมีการประชุมกันที่ท่าเรือ NBC ซึ่งไม่ทราบว่าตกใจหรือคุณไปหาเพื่อนที่ตกน้ำ แต่ที่แน่ ๆ มีการเตรียมการและประชุมกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่าไปประชุมเพื่ออะไร เพื่อนัดแนะกันว่าตกแบบไหนหรือไม่ ระยะหนึ่งความจริงมันจะปรากฏ” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า กรรมาธิการฯ คิดว่ายังต้องตรวจพิสูจน์ชุดที่แตงโมสวมใส่เพิ่มเติมเพื่อให้สิ้นสงสัย เพราะตั้งประเด็นไว้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย จึงต้องพิสูจน์ว่ามีคราบเลือดหรือไม่ รวมถึงการเสียชีวิตเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกเรือ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานรับไปดำเนินการต่อ พร้อมขอฝากสื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะผ้าคลุมสีขาวที่ทำเป็นกระโปรงหายไป ยังไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไร หากใครพบเห็นให้แจ้งสภ.เมืองนนทบุรีไปตรวจสอบ
นายสมชาย กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียช่วยกันหาพยานหลักฐานในคดี ว่า เป็นได้ทั้งสองแง่มุม 1. อาจจะทำให้คดีรัดกุมมากขึ้น หรือ 2. อาจจะทำให้คดีขยายผลจนไม่จบ ซึ่งกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงเรื่องนี้ แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และควรจะตรวจสอบได้จากนิติวิทยาศาสตร์และการสอบสวน เราจึงฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำงานครอบคลุมและรัดกุม
“การทำให้คดียืดออกไป จะด้วยฝ่ายที่ไม่หวังดีหรือสงสัยจริงก็ตาม ขอให้ช่วยกันสกรีน มิฉะนั้นจะเป็นเหมือนคดีของลุงพล ป้าแต๋น ซึ่งในส่วนของสภ.เมืองนนทบุรี ยืนยันว่าไม่หนักใจ ไม่มีอิทธิพลใดจะมาสั่งให้เปลี่ยนคดีได้ ส่วนการตรวจสอบหาสารเสพติด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจร่างกายของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คนแล้ว แต่มีบางคนที่ไม่ยอมให้ตรวจเลือด” นายสมชาย กล่าว
ด้านนาย เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ในฐานะตัวแทนของครอบครัวแตงโม เห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการฯ ที่ขอให้ใช้เครื่องจับเท็จคนบนเรือทั้ง5 คน เพราะเชื่อว่าคดีนี้มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะติดกระดุมผิดมาตั้งแต่ต้น จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จึงเป็นไปได้ที่ทำให้ผู้คนสงสัย
“ผมเห็นว่าคดีนี้ยังจบไม่ได้ ถ้าไม่มีข้อมูลที่แท้จริง การใช้เครื่องจับเท็จจึงจะช่วยยืนยันข้อเท็จจริงของคนบนเรือว่าพูดหรือทำอะไรบ้าง เหตุใดการสื่อสารของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้เรื่องนี้ต้องกลับไปที่ตัวบุคคล จึงอยากให้สังคมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรงว่าเหตุใดไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนบนเรือทั้งหมด แต่แจ้งเพียง 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่าอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ทำให้ต้องตามต่อไปว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน จะนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ ผมถามแบบคนซื่อ ๆ ที่ไม่รู้ข้อกฎหมายว่าทำไมในเมื่อทุกคนโกหก แต่แจ้งข้อกล่าวหาเพียง 2คน อีก 3 คนทำไมไม่โดน” นาย เต๊ะ ศตวรรษ กล่าว
นายเต๊ะ ศตวรรษ กล่าวถึงการร่วมสังเกตการณ์ผ่าร่างแตงโมรอบ 2 ว่า ได้เห็นถึงนัยสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะบาดแผลที่มีเพิ่มเติมเข้ามา แต่ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญว่ามีที่มาอย่างไร อย่างไรก็ตาม ขอร้องชาวโซเชียลมีเดียอย่าตัดต่อหรือสร้างหลักฐานใด ๆ เพื่อความสนุกหรือทำเพื่อต้องการยอดไลค์ ยอดวิว เพราะทำให้คนทำงานเหนื่อย เกิดความสับสน
“ถ้าใครรักคุณแตงโมจริง ๆ อย่างแรกขอให้เอาความจริงมาคุยกัน ฝากถึงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ถ้าได้ฟังอยู่เชื่อว่าแตงโมรักพวกเขา แต่คุณควรแสดงความรักกับแตงโมด้วยความจริง เพราะคดีนี้จะจบไม่ได้ถ้าไม่มีคนพูดความจริง เพราะแต่ละคนยังสื่อสารคนละทิศคนละทาง ถ้ายังไม่พูดความจริง การใช้เครื่องจับเท็จก็เป็นทางออกเดียว ของเรื่องนี้” นายเต๊ะ ศตวรรษ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการฯ สัปดาห์หน้า ยังไม่เชิญใครมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากจะนำผลทางนิติวิทยาศาสตร์มาพิจารณาเปรียบเทียบเพื่อหาข้อยุติก่อน.-สำนักข่าวไทย