เสนอนำ 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ

รัฐสภา 21 มี.ค.-กมธ.สิทธิฯ เรียกตร.- นิติเวช แจงคดี “แตงโม นิดา” แนะนำ 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ หลังให้การไม่ตรงกัน ประชุมนัดแนะหลังเกิดเหตุ


คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์มาชี้แจง ทั้งพ.ต.อ. อดิศร บุญประทีป ผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุกสิก ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ พาลี พิสูจน์หลักฐานตำรวจในที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.ทศพร ทับทิม สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักบัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี นายเต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ดาราซึ่งเป้ฯเพื่อนสนิทของแตงโมร่วมให้ข้อมูลในฐานะตัวแทนของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโม ซึ่งการประชุมวันนี้กรรมาธิการไม่ให้สื่อมวลชน เข้าสังเกตการณ์ เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างกำลังอยู่ในสำนวนคดี

หลังใช้เวลาซักถามนานกว่า 2 ชั่วโมง นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการพร้อมด้วยกรรมาธิการได้แถลงร่วมกับนายเต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร โดยนายสมชาย กล่าวว่า วันนี้กรรมาธิการฯ ได้รับผลผ่าพิสูจน์ศพของแตงโมแล้วทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผลการตรวจสอบครั้งที่ 1 และ 2 ใกล้เคียงกัน ไม่พบร่องรอยของการถูกทุบศีรษะและฟันไม่หัก ส่วนแผลที่ขาเกิดก่อนเสียชีวิต กำลังรอผลตรวจชิ้นเนื้อว่าโดนอะไร 


“ส่วนการให้ข้อมูลของฝ่ายตำรวจ กรรมาธิการฯ พบว่าการสอบปากคำยังไม่ครอบคลุม การให้การขัดกันกับหลายสิ่งหลายอย่าง จึงฝากให้ตำรวจนำคนบนเรือทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จ พร้อมเตือนคนบนเรือที่ให้การไม่ตรงกันว่าบางคนตอนนี้อาจยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่การให้การที่ไม่ถูกต้องถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตอนนี้ปรากฏภาพชัดเจนว่าหลังเกิดเหตุมีการประชุมกันที่ท่าเรือ NBC  ซึ่งไม่ทราบว่าตกใจหรือคุณไปหาเพื่อนที่ตกน้ำ แต่ที่แน่ ๆ มีการเตรียมการและประชุมกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่าไปประชุมเพื่ออะไร เพื่อนัดแนะกันว่าตกแบบไหนหรือไม่ ระยะหนึ่งความจริงมันจะปรากฏ” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า กรรมาธิการฯ คิดว่ายังต้องตรวจพิสูจน์ชุดที่แตงโมสวมใส่เพิ่มเติมเพื่อให้สิ้นสงสัย เพราะตั้งประเด็นไว้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย จึงต้องพิสูจน์ว่ามีคราบเลือดหรือไม่ รวมถึงการเสียชีวิตเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกเรือ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานรับไปดำเนินการต่อ พร้อมขอฝากสื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะผ้าคลุมสีขาวที่ทำเป็นกระโปรงหายไป ยังไม่ทราบว่าหายไปได้อย่างไร หากใครพบเห็นให้แจ้งสภ.เมืองนนทบุรีไปตรวจสอบ

นายสมชาย กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียช่วยกันหาพยานหลักฐานในคดี ว่า  เป็นได้ทั้งสองแง่มุม 1. อาจจะทำให้คดีรัดกุมมากขึ้น หรือ 2. อาจจะทำให้คดีขยายผลจนไม่จบ ซึ่งกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงเรื่องนี้ แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และควรจะตรวจสอบได้จากนิติวิทยาศาสตร์และการสอบสวน เราจึงฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำงานครอบคลุมและรัดกุม


“การทำให้คดียืดออกไป จะด้วยฝ่ายที่ไม่หวังดีหรือสงสัยจริงก็ตาม ขอให้ช่วยกันสกรีน มิฉะนั้นจะเป็นเหมือนคดีของลุงพล ป้าแต๋น ซึ่งในส่วนของสภ.เมืองนนทบุรี ยืนยันว่าไม่หนักใจ ไม่มีอิทธิพลใดจะมาสั่งให้เปลี่ยนคดีได้ ส่วนการตรวจสอบหาสารเสพติด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจร่างกายของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คนแล้ว แต่มีบางคนที่ไม่ยอมให้ตรวจเลือด” นายสมชาย กล่าว

ด้านนาย เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ในฐานะตัวแทนของครอบครัวแตงโม เห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการฯ ที่ขอให้ใช้เครื่องจับเท็จคนบนเรือทั้ง5 คน เพราะเชื่อว่าคดีนี้มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะติดกระดุมผิดมาตั้งแต่ต้น จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จึงเป็นไปได้ที่ทำให้ผู้คนสงสัย

“ผมเห็นว่าคดีนี้ยังจบไม่ได้ ถ้าไม่มีข้อมูลที่แท้จริง การใช้เครื่องจับเท็จจึงจะช่วยยืนยันข้อเท็จจริงของคนบนเรือว่าพูดหรือทำอะไรบ้าง เหตุใดการสื่อสารของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้เรื่องนี้ต้องกลับไปที่ตัวบุคคล จึงอยากให้สังคมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรงว่าเหตุใดไม่แจ้งข้อกล่าวหาคนบนเรือทั้งหมด แต่แจ้งเพียง 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่าอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ทำให้ต้องตามต่อไปว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน จะนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ ผมถามแบบคนซื่อ ๆ ที่ไม่รู้ข้อกฎหมายว่าทำไมในเมื่อทุกคนโกหก แต่แจ้งข้อกล่าวหาเพียง 2คน อีก 3 คนทำไมไม่โดน” นาย เต๊ะ ศตวรรษ กล่าว

นายเต๊ะ ศตวรรษ กล่าวถึงการร่วมสังเกตการณ์ผ่าร่างแตงโมรอบ 2 ว่า ได้เห็นถึงนัยสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะบาดแผลที่มีเพิ่มเติมเข้ามา แต่ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญว่ามีที่มาอย่างไร อย่างไรก็ตาม ขอร้องชาวโซเชียลมีเดียอย่าตัดต่อหรือสร้างหลักฐานใด ๆ เพื่อความสนุกหรือทำเพื่อต้องการยอดไลค์ ยอดวิว เพราะทำให้คนทำงานเหนื่อย เกิดความสับสน

“ถ้าใครรักคุณแตงโมจริง ๆ อย่างแรกขอให้เอาความจริงมาคุยกัน ฝากถึงคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ถ้าได้ฟังอยู่เชื่อว่าแตงโมรักพวกเขา แต่คุณควรแสดงความรักกับแตงโมด้วยความจริง เพราะคดีนี้จะจบไม่ได้ถ้าไม่มีคนพูดความจริง เพราะแต่ละคนยังสื่อสารคนละทิศคนละทาง ถ้ายังไม่พูดความจริง การใช้เครื่องจับเท็จก็เป็นทางออกเดียว ของเรื่องนี้” นายเต๊ะ ศตวรรษ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการฯ สัปดาห์หน้า ยังไม่เชิญใครมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากจะนำผลทางนิติวิทยาศาสตร์มาพิจารณาเปรียบเทียบเพื่อหาข้อยุติก่อน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย