นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม
ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4
คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 คน อย่างละเอียดว่าแต่ละคนมีความประมาทอย่างไรบ้าง เหตุใดแตงโมจึงตกเรือจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งทนายเดชา ยกตัวอย่างความประมาทที่มุ่งให้ศาลเห็นความผิดของจำเลยในการต่อสู้คดีที่ผ่านมา เช่น มีการชักชวนลงเรือร่องเจ้าพระยา มีการตระเตรียมเรือ ตระเตรียมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วดื่มกินกันจนมึนเมา และเกิดการประมาท ทำให้แตงโมตกเรือจมน้ำเสียชีวิต และยังแจ้งเหตุล่าช้า ส่วนศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร นางภนิดาก็พร้อมยอมรับ
แซน หนึ่งในจำเลย บอกว่าไม่กังวลต่อคำพิพากษาว่าจะออกมาอย่างไร เป็นลบหรือบวกกับตนเอง แค่รู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากใช้เวลาต่อสู้คดีมาถึง 3 ปี แต่ก็แอบดีใจที่จะหมดเวลาของเฟคนิวส์ที่เกิดขึ้นกับตนเองในคดีนี้แล้ว
ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที สรุปว่า แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์, กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และจ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร ยกฟ้องฐานความผิดกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
มีเพียงนายนิทัศน์ หรือ จ๊อบ ที่ถูกพิพากษาความผิดฐานทำลายหลักฐานช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา จำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท และความผิด ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำเจ้าพระยา จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท โดยให้รอลงอาญา 1 ปี
ขณะที่ ภีม ธรรมธีรศรี ในฐานะผู้ที่ให้คำแนะนำ ไม่ได้อยู่บนเรือด้วย จึงไม่ได้มีฐานความผิดกระทำโดยประมาทฯ แต่แรก โดยสาเหตุที่ศาลสั่งยกฟ้อง เนื่องจากแตงโมเสียชีวิตจากการเดินไปท้ายเรือและตกลงไป ถือเป็นการเสี่ยงภัยของแตงโมเอง และไม่มีกฎหมายกำหนดว่าผู้ที่โดยสารไปด้วยกันจะต้องรับผิดชอบผู้อื่น รวมถึงมีความพยายามช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากน้ำที่ลึก ทำให้ไม่สามารถลงไปช่วยได้ ในส่วนแม่จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ต้องรอคัดคำพิพากษาแล้วจะปรึกษาทางอัยการซึ่งเป็นโจทก์หลักว่าจะทำอย่างไรต่อ ซึ่งการคัดต้องรอร่างแล้วให้ผู้พิพากษาลงนาม ไม่น่าจะเสร็จภายในวันเดียว
ขณะที่จำเลยแต่ละคน ส่วนใหญ่เมื่อเดินลงมาจากศาลแล้วก็ตรงไปขึ้นรถทันทีไม่ได้ให้สัมภาษณ์ มีเพียงแซนและทนาย ที่ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกโล่งใจ เพราะที่ผ่านมามีกระแสพูดไปต่าง ๆ นานา มาถึง 3 ปี วันนี้ก็ถือว่าพิสูจน์ตัวเอง และฝากถึงนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่าที่ผ่านมาพูดหลายอย่าง ทำอะไรไม่ได้จริงสักอย่าง ควรให้ทำให้ได้อย่างที่พูด ส่วนสังคมจะว่ายังไงตนขอไม่พูดถึง และเมื่อถามว่าคิดจะฟ้องกลับบ้างหรือไม่ แซนกล่าวว่า ขึ้นศาลมาเยอะแล้ว คงไม่อยากมาแล้ว
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ออกมาจากศาลไปขึ้นรถ พูดสั้น ๆ ว่า โล่งใจที่คดีจบลง และคงไม่ยื่นอุทธรณ์แล้ว. -สำนักข่าวไทย