ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ผบ.ทบ. 167.6 ล้าน

สำนักงานป.ป.ช. 25 ก.พ.- ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ผบ.ทบ. จำนวน 167.6 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน ด้านปลัดกลาโหม 44.5 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ ล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี โดยพล.อ.ณรงค์พันธ์และพล.ต.หญิงพิมพ์พิศา จิตต์แก้วแท้ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 167,623,994 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยเป็นทรัพย์สินของพล.อ.ณรงค์พันธ์ 19,112,534 บาท แยกเป็นเงินฝาก 2,448,096 บาท เงินลงทุน 3 แสนบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12,427,822 บาท ยานพาหนะ 2 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 1,615,616 บาท

ทรัพย์สินอื่น 321,000 บาท เช่น ปืนพกลูกโม่ขนาด .38 มม ปืนพกกึ่งอัตโนมัติแมกกาซีน รวม 3 กระบอก รวมมูลค่า 66,000บาท นาฬิกาไซโก้ 2 เรือน รวมมูลค่า 80,000 บาท แหวนทองคำ 5 วงมูลค่า 105,000 บาท เครื่องหมายยศทองคำ(พลตรี) 1 ชุด 5,000 บาท เข็มกลัดเนคไททองคำฝังเพชร 1 ชิ้น 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังแจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,525,638 บาท เป็นเงินเดือน 1,419,416 บาท ประชุมสภากลาโหม 80,000 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 2,104 บาท เงินคืนประกันชีวิต 18,867 บาท เงินรางวัลสลากออมสิน 5,250 บาท มีรายจ่ายรวม 1,174,139 บาท


ขณะที่พล.ต.หญิงพิมพ์พิศา แจ้งมีทรัพย์สิน 148,511,459 บาท เป็นเงินฝาก 17,474,023 บาท ที่ดิน 20 แปลงในจ.ปทุมธานี ลพบุรี นนทบุรี นครนายก เพชรบุรี สระบุรี กทม. จำนวน 91,386,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 32,834,625 บาท ยานพาหนะ 2.5 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 988,418 บาท ทรัพย์สินอื่น 3,327,892 บาท เช่น   สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 4 ชุดมูลค่า 250,000 บาท พระเลี่ยมทอง 9 องค์ มูลค่า 1แสนบาท สร้อยข้อมือ 10 เส้น มูลค่า 273,000 บาท สร้อยคอทองคำ 12 เส้น 461,200บาท สร้อยคอและสร้อยข้อมืออัญมณี 8 เส้นประเมินค่าไม่ได้ สร้อยเพชร แหวนเพชร สร้อยข้อมือ 3 เส้น 7 วง 838,900บาท แหวนทองต่างหูทอง ยศทองคำ 12 วง 3 คู่ 70,000 บาท สร้อยคอเพชรและต่างหูเพชร 387,000บาท สร้อยคอทองคำและต่างหู 3 แสนบาท สร้อยคอกำไลตุ้มหูและแหวน 1 ชุด 647,792บาท 

ส่วนรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 3,158,404 บาท เป็นเงินเดือน 991,230 บาท ค่าเช่า 1.5 ล้านบาท ขายที่ดิน 4.8 แสนบาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 6,024 บาท เงินคืนประกันชีวิต 38,150 บาท เงินรางวัลสลากออมสิน 143,000 บาท มีรายจ่ายรวม 849,796 บาท

สำหรับพล.อ.วรเกียรติและพ.ต.อ.หญิงอังศุวรรณ รัตนานนท์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 44,591,412 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 303,947 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของพล.อ.วรเกียรติ 16,514,082 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 5,780,224 บาท เงินลงทุน 6,657,136 บาท ยานพาหนะ 3,250,000 บาท โดยเป็นรถยนต์ BMW รุ่น 520D มูลค่า 2.5 ล้านบาท และรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ด มูลค่า 750,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 586,722 บาท ทรัพย์สินอื่น 2.4 แสนบาท เป็นสร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทอง 3 องค์ 1 เส้น มูลค่า 150,000 บาท และนาฬิกา 3 เรือน 9 หมื่นบาท หนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี  82,574 บาท   


ส่วนรายได้รวมต่อปีแจ้งว่าโดยประมาณ 1,895,464 บาท เป็นเงินเดือน ค่าจ้าง  1,831,464 บาท เบี้ยประชุม 64,000 บาท มีรายจ่ายรวม 774,000 บาท ด้าน พ.ต.อ.หญิง อังศุวรรณ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 28,077,329 บาท ได้แก่ เงินฝาก 19,695,171 บาท ที่ดินในจ.นครราชสีมา 3,550,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 8 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 312,158 บาท ทรัพย์สินอื่น 2.2 แสนบาท เป็นนาฬิกา 2 เรือนและแหวนเพชร 4 วง มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี  221,372 บาท ส่วนรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 903,390 บาท เป็นเงินเดือน ค่าจ้าง รายจ่ายรวม 6.3 แสนบาท.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย