รัฐสภาเริ่มพิจารณาร่าง กม.ลูกแล้ว

รัฐสภา 24 ก.พ.-ประชุมร่วมรัฐสภาเริ่มพิจารณาร่าง กม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว “ชลน่าน-วิเชียร-ปดิพัทธ์” ชี้แจงย้ำสูตรคำนวณ ส.ส. ขณะยังเห็นแย้งปมเบอร์เดียวหาเสียงทั้งคนทั้งพรรค


การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ… ซึ่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ส.ส. เข้าชื่อเสนอรวม 10 ฉบับ มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมรัฐสภาตกลงว่าจะพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีผู้เสนอรวม 4 ฉบับให้แล้วเสร็จ และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จากนั้น จะพิจารณา ร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ… ที่มีผู้เสนอรวม 6 ฉบับ ต่อเนื่อง จากนั้น ตัวแทนผู้เสนอร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้นำเสนอสาระสำคัญตามเนื้อหาที่เสนอ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำเสนอสาระฉบับของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสาระสำคัญว่าได้แก้ไขปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1)พ.ศ.2564 มาตรา 83 มาตรา 96 มาตรา91 ที่ให้มีส.ส.รวม 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คนและส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และแก้ไขสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง


ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำเสนอสาระสำคัญว่าร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. มี 31 ประเด็น และมีบทเฉพาะกาล เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีประเด็นสำคัญโดยเฉพาะการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ต้องเขียนเนื้อหาเพื่อให้การแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ก่อให้เกิดปัญหาเหมือนการเลือกตั้ง ปี 2562  แม้กฎหมายลูกกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจน แต่มีปัญหาการปฏิบัติ ไม่มีความเป็นธรรม เอื้อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม เขตติดต่อกันที่เขียนในกฎหมาย แต่ติดต่อแบบลากตามอำเภอใจ เว้าแหว่ง ไม่คำนึงถึงประเพณีของชุมชน และจำนวนประชากร บางเขตห่างกัน 5 หมื่นคน เช่น ที่จ.เชียงใหม่ เขต 1 และ เขต 2 ที่มีผลต่อการลงคะแนน ดังนั้นทจึงกำหนดว่า ในจังหวัดใดเลือกตั้งเกิน 1 คนให้แบ่งพื้นที่แต่ละเขตติดต่อกัน มีผลต่างจำนวนของราษฎรในเขตเลือกตั้งไม่เกิน 10% ซึ่งปัจจุบันมีมีฐานตัวเลขที่ 1.6แสนคนต่อเขต

นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า การกำหนดหมายเลขประจำตัวผู้สมัครส.ส.และพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทยกำหนดเนื้อหาให้พรรคการเมืองและผู้สมัครส.ส. ใช้หมายเลขเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งนำเนื้อหาร่างกฎหมายลูกที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอไว้ตอนแรกบัญญัติไว้ แต่ภายหลังสำนักงานกฤษฎีกาและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุว่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 90 จึงเปลี่ยนไปไม่ใช้เบอร์เดียวกัน ซึ่งตนไม่แน่ใจเจตนารมณ์ของการแก้ไขดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจึงเขียนเนื้อหาให้ใช้หมายเลขเดียวกัน โดยวันที่ส่งส.ส.แบบแบ่งเขต ไม่จำเป็นต้องจับหมายเลข เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ จากนั้นวันต่อไปเมื่อส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้จับหมายเลขเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง

“ในการเลือกตั้งปี 2550 มีการแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีเขตใหญ่ 8 เขต ที่มีหมายเลขแตกต่างกัน พบความโกลาหล สับสนวุ่นวายพรรคการเมืองลำบากหาเสียงบัญชีรายชื่อ เพราะผู้สมัครส.ส.เขต ไม่สามารถหาเสียงให้กับพรรคการเมืองได้ และเป็นต้นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้คะแนนเฉพาะตัวเอง ใช้สินจ้าง ทำให้พรรคการเมืองถูกทำลายตั้งแต่วันแรกที่เข้าคูหา ขัดขวางการมีส่วนร่วมของประชาชนที่จะได้รับความเข้าใจต่อหมายเลข ที่กกต.บอกว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ประโยชน์จากบัตรใบเดียว ผมมองว่าทุกพรรคได้ประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียง” นพ.ชลน่าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การแก้ไขให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ให้มีหมายเลขแตกต่างกัน เจตจำนงที่คิดได้ คือ ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและระบบรัฐสภา ส่วนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ทุกฉบับเห็นตรงกันโดยใช้หารจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เขียนชัดว่าการจัดสัดส่วนคะแนนเพื่อหาจำนวน ส.ส.ให้ใช้ตัวเต็ม เช่น พรรคเพื่อไทยได้ 40.8 ให้นำตัวเลข 40 จัดสรรตามรายชื่อ เมื่อคำนวณกับทุกพรรคได้ส.ส. 90 คน จากนั้นให้นำ 10 คนไปหาส.ส. จัดลำดับจากทศนิยม จากทุกพรรคที่ได้รับเข้าระบบ เพราะไม่มีกำหนดขั้นต่ำ เพื่อให้พรรคเล็กพรรคน้อย  ได้ส.ส.เข้าสภา ซึ่งตนมองว่าเป็นวิธีที่เป็นธรรม

ขณะที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอสาระ ต่อสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อในฉบับของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เนื้อหาที่เสนอแก้ไขกำหนดความสำคัญ ให้ใช้การคำนวณเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับคะแนนรวม โดยมีรายละเอียดคือให้นำคะแนนที่ได้จากการลงคะแนนให้กับผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของทุกพรรครวมกัน จากนั้นให้หารด้วยจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่มี 100 คน เช่น มีคะแนนรวม 30 ล้านคะแนน หาร 100 คนจะได้คะแนนเพื่อนำไปคำนวณส.ส.ที่แต่ละพรรคการเมืองพึงมี

“สำหรับมาตรา 90 ของรัฐธรรมนูญที่ไม่แก้ไข ดังนั้น เจตนารมณ์ คือต้องส่งผู้สมัครส.ส.แบบเขตเลือกตั้งแล้ว จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกระบวนการส่งส.ส.เขต ต้องทำให้แล้วเสร็จจนได้รับหมายเลขของผู้สมัครส.ส.เขตแล้ว สำหรับเรื่องหมายเลขผู้สมัครที่กังวลว่า จะทำให้ประชาชนสับสน ลงคะแนนยาก เพราะหมายเลขแตกต่าง บัตรใบที่หนึ่ง ไม่มีข้อกังขาใด ประชาชนมีความสามารถ ใช้วิจารณญาณในการเลือกตั้งผู้แทนคนดี ไปเป็นส.ส. ส่วนบัตรใบที่สอง พรรคการเมือง ประชาชนสามารถรับรู้ข่าวสาร นโยบายการทำงานของแต่ละพรรคได้ และเลือกตัวแทนที่เหมาะสมทำงานในสภาได้ ไม่มีใครชี้นำ หรือชักจูงในการเลือกตั้งหมายเลขใดได้” นายวิเชียร กล่าว

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า พรรคการเมืองไม่ควรพูดกันว่าใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ แต่ควรพิจารณาว่าการเลือกตั้งแบบใดที่ประชาชนยอมรับ และได้เวทีเลือกตั้งเพื่อสร้างฉันทามติ กกต. จัดการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรม โดยพรรคก้าวไกล เสนอให้ใช้หมายเลขผู้สมัครส.ส.แบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อเดียวกันเพื่อป้องกันความสับสนในการลงคะแนนของประชาชน นอกจากนั้นกกต. ต้องให้การสังเกตการเลือกตั้งทำได้ และกกต.​ต้องทำอย่างเปิดเผย

“สำหรับการแก้ปัญหาปัดเศษ พรรคก้าวไกลไม่เสนอ แต่พบว่าเมื่อมีส.ส.ปัดเศษ คือ ไม่เต็มคะแนนฉันทามติของประชาชนที่มีเสียงมากพอเข้าสภาฯ ทั้งนี้ต้องการตัวแทนพรรคการเมือง เข้ามาทำงานฐานะสถาบันทางการเมือง ปัจจุบันพบว่ามีการรวมตัวของส.ส.กลุ่ม 16 หากนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอาจจะน้อยกว่าส.ส.1 คน แต่พบว่ามีอำนาจต่อรอให้การประชุมเดินหน้าไม่ได้ ทำให้สภาฯล่มซ้ำซาก ทั้งนี้ตนมองว่าการแก้ไขสภาฯ ล่มต้องตั้งเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้มีอาชีพรับจ้างตั้งพรรคการเมือง เพื่อลงสมัครส.ส. ซึ่งทำลายระบบการเมือง” นายปดิพัทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย