นายกฯ เหน็บฝ่ายค้านรู้ตอนจบทศกัณฐ์

รัฐสภา 17 ก.พ.-นายกฯ ยันรัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมจากปี 57 มีคนเดิมแค่ 4 คน 32 คนเป็นคนใหม่ นโยบายใหม่ รมต.พร้อมแจงรายละเอียดทุกประเด็น ลั่น ไม่มีทุจริต ระบุฝ่ายค้านให้เป็นพระรามพระลักษณ์ แล้วออกตัวจะเป็นทศกัณฐ์ รู้อยู่แล้วตอนจบเป็นอย่างไร ชี้ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงทันทีภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดญัตติอภิปราย ทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม มาตรา 152 เป็นคนแรก ว่า พร้อมรับฟังด้วยเหตุด้วยผล อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่จะนำไปสู่การแก้ไข พร้อมจะรับไปดำเนินการ ขณะนี้มีหลายสถานการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ตนทำเพียงคนเดียว แต่ร่วมมือกับคณะทำงานต่าง ๆ รัฐบาล รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล และข้าราชการทั้งประเทศหลายแสนคน ที่ช่วยกันทำงานในช่วงที่ผ่านมา

“ถ้าท่านกล่าวว่าเป็นข้อบกพร่องและเป็นปัญหาอยู่ จากข้อมูลที่นพ.ชลน่าน กล่าวมาทั้งหมด หลายอย่างยังไม่ได้ลงในรายละเอียด ซึ่งเวลาที่เหลือต่อจากนี้คณะรัฐมนตรีมีคำชี้แจงที่จะลงรายละเอียดให้กับนพ.ชลน่าน เพื่อไม่ให้ประชาชนรับฟังด้านเดียว แต่จะได้รับฟังเรื่องของการแก้ไขปัญหา ความก้าวหน้า และหลักคิดแนวคิดต่าง ๆ ซึ่งหลายคนในที่นี้อาจมองว่ารัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ไม่มีความสามารถ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีเข้าสภาฯ ควรวางบทบาทให้เหมือนกับรามเกียรติ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคงเล่นบทพระรามพระลักษณ์ แต่อีกฝ่ายคงต้องเล่นเป็นบททศกัณฐ์ แต่คิดว่าประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์ แต่ท้ายที่สุดก็รู้อยู่แล้วว่าทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้าย อันนั้นคือข้อเท็จจริง ตนจะไม่กล่าวอะไรอีกที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง หรือไม่พอใจกันอีก พยายามจะระมัดระวังอย่างที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่นพ.ชลน่านกล่าวมานั้นประมาณ 15 ประเด็น สิ่งแรกที่นพ.ชลน่านกล่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริง คล้ายกับว่ารัฐบาลนี้ใช้อำนาจ เป็นกลไกเข้าสู่อำนาจ รวมถึงรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฐบาลเดิมจากปี 2557 ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้นั่งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 คนที่อยู่ในอำนาจเดิมมาทำหน้าที่ใหม่ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ตามกฎหมายใหม่ ตัวบุคคลไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีมีอยู่ 4 คนที่ซ้ำกับเดิม ส่วนอีก 32 คนเป็นคนใหม่ทั้งหมด ซึ่งนโยบายก็ต่างกันแน่นอน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การก่อหนี้สาธารณะ การขยายเพดานหนี้ ครัวเรือน น้ำมันแพง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก ยืนยันว่าชี้แจงได้ทั้งหมด เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ อัตราการตกงานของนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่มขึ้น การเปิดปิดกิจการเพิ่มขึ้นหรือลดลงโรงงานต่าง ๆ ก็แก้ไขปัญหาจนมีผลสัมฤทธิ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ในวันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ แต่เป็นสถานการณ์ที่เป็นวิกฤติการณ์ของโลก ของภูมิภาค ของทุกประเทศอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าการแก้ไขปัญหานั้นยุ่งยาก มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก รัฐบาลต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาทั้งหมด ในเชิงโครงสร้างกลไกและวิธีการ ทางกฎหมาย หลายอย่างคงพูดง่าย ๆ ไม่ได้ ซึ่งต้องชี้แจงรายละเอียดให้เข้าใจ


“การแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ที่ฝ่ายค้านระบุว่า กลับไปกลับมา วัคซีนล่าช้า ยืนยันว่าชี้แจงได้ทั้งหมด และเหตุผลคืออะไร วันนี้จัดหาได้เพียงพอ วันแรกมีปัญหาของความไม่พร้อมวัคซีน ข้อตกลงต่าง ๆ ก็ยังไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นไม่ได้ ความไม่แน่นอนในวัคซีนแต่ละประเภท แต่ละชนิด แต่วันนี้ปรากฏออกมาแล้วว่าพัฒนาวิเคราะห์วิจัยจนเป็นผลสัมฤทธิ์ สามารถจัดทำวัคซีนได้ครบถ้วน ส่วนประเทศไทยอยู่ในฐานะที่เป็นประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการยอมรับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนที่การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม ถามกลับไปยังฝ่ายค้านว่าการเยียวยาที่เหมาะสมของท่านคืออะไร คือการช่วยเหลือด้วยการให้เงินสนับสนุนงบประมาณ มองในแง่ของงบประมาณว่าโครงสร้างที่ผ่านมาทั้งหมดก่อนหน้าที่ตนเข้ามาทำโครงสร้างอะไรใหม่ ๆ เพื่อให้ประเทศไทยมี GDP สูงขึ้นบ้างหรือไม่

“ตอบได้หรือไม่ หากตอบได้กรุณาตอบด้วย ท่านถามผม ผมถามกลับท่าน ก่อนหน้านี้นอกจากการขอใช้เงิน ขอใช้งบประมาณให้มากขึ้น เวลาเอาเงินกู้มาก็บอกว่าไม่ทั่วถึง กู้แล้วเพิ่มหนี้สาธารณะ ไม่มีใครทำโดยไม่รู้กฎหมาย เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์ในสุกร ส่งผลกับราคาเนื้อสุกรที่สูงขึ้น ว่า วันนี้ราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นหรือไม่ ไม่แพงเพราะอะไร เพราะนายกรัฐมนตรีเข้าไปแก้ไขอย่างไร เกิดปัญหาขึ้นจากตรงไหน การช่วยเหลือเรื่องการเกิดโรคระบาด แล้วโรคระบาดเกิดจากอะไรเกิดเป็นพื้นที่หรือทั้งประเทศ เดี๋ยวจะมีผู้ชี้แจงให้ทั้งหมด ตนจะ ปกปิดเพื่ออะไร

“แต่สิ่งที่ท่านปกปิดผม ทำไมถึงมีการกักเก็บเนื้อสุกรไว้ในห้องเย็นจำนวนมาก มีคดีอยู่ในศาล ยืนยันว่าจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายทุกประการ ผมไม่ได้รังแกใคร ไม่ได้สนับสนุนลูกค้ารายใหญ่ แต่ต้องการให้ประชาชนคนไทยระดับล่างเข้มแข็งให้มากที่สุด ประเทศไทยตั้งอยู่ด้วยเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจทุกระดับจะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ขอว่าต้องอยู่ในกติกากฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดองค์ความรู้เรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีแนวโน้มที่ตัวสูงขึ้น​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า สมัยก่อนปรับตัวสูงขึ้นและต่ำลง ตามความต้องการของตลาดและฤดูกาล เรื่องนี้ตนสั่งการให้ไปตรวจสอบว่ามีราคาสูงขึ้นเพราะอะไร แล้ววันนี้ราคาหมูลงเท่าไหร่​ โดยการลักลอบนำเข้าการปกปิด การเลี้ยงที่ไม่มีคุณภาพก็ต้องไปแก้ไข​ ซึ่งไม่โทษใคร เพียงแต่ให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำงาน ปัญหาติดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จะมีหน่วยงานมาชี้แจง ยุทธศาสตร์ชาติเดินหน้าไปถึงไหนอย่างไร อย่าพูดลอย ๆ หลายคนพูดว่าจะมาแก้ไข PM 2.5 ขอให้แก้เรื่องปัญหาการจราจรให้ได้เสียก่อน ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือการใช้รถใช้ถนน ห้ามเขาได้หรือไม่ ห้ามรถเก่ามาวิ่งได้หรือไม่ คนเรามีรายได้แตกต่างกัน แต่ทำอย่างไรจะปรับตัวเองได้ทุกอย่างต้องเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ทุกประเทศก็เป็นแบบนี้ ก่อนที่เขาจะเจริญร่ำรวยมาถึงทุกวันนี้ เอาทุกอย่างมาประยุกต์ใช้​ มาปรับตัว​ มาปรับในความคิดของตน ไม่ได้ทำงานแบบสุกเอาเผากิน เพื่อตอบสนองความพอใจของคนบางคน คนบางกลุ่มตนไม่ทำแบบนั้น แต่ต้องทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข และเป็นความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ความสุขจอมปลอม พูดให้คนเขาเชื่อ​ พูดให้คนเขารัก มันไม่ใช่ผม พูดด้วยความจริงใจของผมว่าจะพูดจะทำอะไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาประมงว่า ที่ผ่านมาทำให้ทุกอย่างถูกกฎหมาย สร้างความเป็นธรรมกับประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบกับการค้า การประมงในต่างประเทศ ขอถามว่าแบบนี้เรียกว่าล้มเหลวตรงไหน ล้มเหลวอย่างไร เรื่องการทำลายเรือ เรื่องเหล่านี้เกิดมาเมื่อไหร่ แล้วตนแก้หรือไม่ รัฐบาลก่อน ​ๆ​ เคย​ตอบหรือไม่ ตนไม่ได้พูดถึงรัฐทั่วไป​ แต่ตนพูดถึงรัฐบาลของคนที่พูดเมื่อสักครู่ หากทำมาแล้ว ตนจะยอมรับ หากทำมาดี ตนก็คงไม่ต้องมาทำ ไม่ได้ว่าใคร

“ การแก้ไขรัฐธรรมนูญและบริหารราชการท้องถิ่นพร้อมกระจายอยู่แล้ว แต่ถามว่างบประมาณของท้องถิ่นเก็บได้มากน้อยเพียงใด พยายามจะทำอย่างไรให้ท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่มขึ้น​ เพราะการเก็บภาษีเป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีขีดความสามารถที่จะมีรายได้ให้เพียงพอ ให้สามารถจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่นให้รัฐบาลไม่เคยหวง มีแต่สนับสนุน มีแต่หาเงินมาเติมให้ ขอให้ไปย้อนดูงบประมาณแต่ละปีสนับสนุนเพิ่มเติมไปเท่าไร เก็บภาษีได้เท่าไหร่ เรื่องนี้ได้รายละเอียดเยอะ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายก​รัฐมนตรี​ ชี้แจงถึงการบริหารงานของรัฐบาลส่อไปทางทุจริต ส่งผลต่องบประมาณ ว่า อย่าพูดคำนี้กับตน หากว่าไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ยืนยันว่าเข้ามาตรงนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ถึงวันต่อ ๆ ไป ถ้าตนยังอยู่จะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบาย เจตนารมณ์ และให้ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ มีหลายเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดและจะมีผู้ชี้แจงทั้งหมด ไม่ได้โกรธอะไร​ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ จะแพง​ จะจน​ จะพัง​ ทั้งแผ่นดิน ก็ว่าไปเถอะ

“จากที่ได้ฟังญัตติขอให้ย้อนไปในปี 2564 หากจำกันได้ ทำกันมาได้ดีจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2563 โควิดก็เข้ากันมาอีกรอบ รัฐบาลเป็นคนเอาเข้ามาหรือไม่ รัฐบาลไม่ได้เป็นคนเอาเข้ามา แต่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ ซึ่งประชาชนทุกคนร่วมมือ แล้ววันนี้ก็มาอีกหลายระลอกไม่ได้ฉลองปีใหม่ แล้วเจอโควิคสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทุกประเทศเจอปัญหาเหมือนกันหมด เกิดการแย่งชิงวัคซีน รัฐบาลพยายามทำงานเพื่อให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี สามารถฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดส วัคซีนที่ทุกชนิดที่เข้ามาในประเทศไทยต้องได้รับการอนุมัติอนุญาตจากกลไกของรัฐทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็ตาม หากไม่ได้ตรวจสอบคัดกรองให้ดีเข้ามามีอันตราย รัฐบาลต้องรับผิดชอบอีก ทุกยี่ห้อเข้ามาโดยการอนุมัติของรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิดหลายรอบ​ ว่า การกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท มีการฟื้นฟูเยียวยาต่อเนื่องหลายโครงการ บรรเทาความเดือดร้อน แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยส.ส.ระบุว่า การบริหารประเทศ รัฐบาลนี้บอบช้ำทุกด้าน​ ล้มเหลว ขอให้ไปตามว่าประเทศรอบบ้านเขาเป็นอย่างไรบ้าง อันไหนที่เราแย่กว่า​ อันไหนที่เราดีกว่า คำพูดเหมือนว่าเราแย่ไปเสียทั้งหมด ตนว่าไม่ใช่ ฝากครม.​ ส.ส.แต่รัฐมนตรีที่ทราบดีชี้แจงด้วย เพราะต่อเนื่องเชื่อมโยงกับประชาชนอยู่แล้ว รัฐบาลทำงานเข้าเป้าหมายหลายเรื่อง

“ส่วนการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ จะเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ คิดว่ารัฐบาลใช้เงินอย่างเดียวหรือ รัฐบาลต้องคิดสองด้านเสมอ เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้แย่อย่างที่พูด หากล้มเหลวคงไม่มีใครมาลงทุนแน่นอน ไม่มีใครอยากจะมาเที่ยว หรือปรับโทนสีของประเทศให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ ยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์หรือขายทรัพยากรธรรมชาติ ผมเข้ามา ผมรักเรื่องนี้ รักทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่น้อยอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ก็ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เนื่องจากมีจำนวนจำกัด ผมไม่สามารถเอาไปแลกอะไรกับใครได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายตามข้อตกลง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ต้องคิดทั้งระบบ เอาทุกอย่างมาบริหารร่วมกันมีศูนย์กลางในการบริหารสั่งการตามสถานการณ์ จะมาบอกว่าตนใช้แต่อำนาจจนเคยตัว ขอถามว่ากฎหมายพวกนี้เกิดมาในสมัยใคร แล้วใครเคยใช้บ้างหรือไม่ ตนใช้คนเดียวหรือไม่ ก็ออกมาแล้ว ออกมาก่อนที่ตนใช้อีก พวก พ.ร.ก. วัตถุประสงค์เพื่ออะไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยมีเสถียรภาพ ตนคงไม่ใช้ในเรื่องของการเอาประโยชน์เข้าใส่ตัวเอง เพราะตนไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้

“ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปค่อยแก้ไขค่อยปรับแก้ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทุกวัน รัฐบาล ครม. ทุกคนไม่เคยนิ่งนอนใจ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น มองในสิ่งที่ดี ๆ แล้วขยายสิ่งที่ดี ๆ ทำต่อกันไป สิ่งใดที่ยังไม่เรียบร้อยก็ขอให้เสนอมา ผมยินดีดีปรับแก้ไขในสิ่งที่เป็นไปได้ ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนทุกกลุ่ม รัฐบาลไหนจะนั่งสบายได้ในสถานการณ์แบบนี้ รัฐบาลนี้ไม่มีความสุข ตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีความสุข แต่ความสุขความพอใจจะมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการบริหารกับงบประมาณที่มีอยู่ สถานการณ์ต้องมีความสงบเรียบร้อย ควบคู่กันไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนโครงการต่าง ๆ รัฐบาล พยายามทำทุกโครงการ หากโครงการใดประชาชนไม่ชอบก็ขอให้บอกมา ในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชน โครงการใดควรยกเลิก 3 เฟส 4 เฟสอะไร ตนไม่ได้ต้องการทำเพื่อคะแนนเสียงอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องการให้เงินเหล่านี้ไปถึงประชาชนโดยตรง โอนเข้าบัญชีโดยตรง ครที่โกงใครที่ทุจริต ออนไลน์บิดเบือน ติดคุกให้หมด ตนไม่ต้องการให้เขาได้ประโยชน์ ยืนยันว่าทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าต้องทำงานตามแผนเผชิญเหตุ แผนอนาคต ไม่ใช่ทำงานวันต่อวัน ปรับแก้มาตรการดำเนินการว่ามีอะไรที่ยังต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ขอให้ทำไป นี่คือการทำงานร่วมกัน ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ วันนี้ดำเนินการไปแล้ว ต้องแก้ตั้งแต่ต้นเหตุ จะทำอย่างไรที่จะเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะเงินไม่ใช่เงินของเรา เป็นเงินของประชาชนทั้งหมด เอาเงินมาใช้ จะต้องทำอย่างไรให้สังคมเข้มแข็งในเวลานี้ ให้ตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในวันนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สังคมเราอ่อนแอ ความรักความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญ หากดูในต่างประเทศเขาเอาคำว่าชาติ  ศาสนา พหุวัฒนธรรม สถาบันมีแต่แตกต่างกัน เขาเอาสถาบันเหล่านี้มาเชิดชูความเป็นหนึ่งของประเทศ ไม่ใช่เอามาสร้างความแตกแยก ผมได้รับความชื่นชมจากกลุ่มประเทศรายกลุ่ม แต่แน่นอนหากมองในแง่มุมของประชาธิปไตยมีปัญหาหมด แต่ต้องถามว่าอยู่ในกรอบหรือไม่ แล้วควรต้องอยู่ไหม หากไม่ควรต้องอยู่ก็ขอให้ร่างอะไรมาก็ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้

“สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือความรุนแรงในสังคม ชินแล้วกับการใช้คำพูดวาจาหยาบคาย หรือแสดงกิริยาหยาบคาย เคยชินกับความรุนแรงของปืน ท้ายสุดกลับมาด่าเจ้าหน้าที่ แล้วจะอยู่กันแบบนี้ต่อไปหรือ หากจะอยู่แบบนี้กันต่อไปก็แล้วแต่ เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ขอให้สภาฯ แก้กฎหมายโดยเร็ว มีอยู่จำนวนมากที่ค้างอยู่  ต่างคนต่างเล่นกันคนละบทบาท ท่านให้ผมเป็นพระลักษณ์พระรามก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็นทศกัณฐ์ก็แล้วแต่ ดูหนังดูละคร ก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์เยอะ” นายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการลุกขึ้นชี้แจงของนายกรัฐมนตรี  ช่วงหนึ่งนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านได้ทำท่าหลับตาพิงเก้าอี้คล้ายจะหลับ หลังนั่งฟังนายกรัฐมนตรีชี้แจงนานร่วมครึ่งชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย