นายกฯ ยันแก้ปัญหาพลังงานเต็มที่ ชี้ไทยเจอวิกฤติน้ำมัน

ทำเนียบฯ 9 ก.พ. – นายกฯ เผยแก้ปัญหาพลังงานอย่างเต็มที่ กำลังหารือปรับลดภาษีน้ำมันไม่ให้กระทบรายได้ของรัฐ ระบุไทยต้องเผชิญวิกฤติน้ำมันอีกนาน ขออย่านำปัญหาการเมืองมายุ่งฝ่ายบริหาร


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาน้ำมันด้วยการลดภาษีน้ำมันว่า เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว รอการชี้แจงอีกครั้ง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลมีแผนการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเรื่องกองทุนน้ำมัน การเตรียมวงเงินกู้ตามกรอบไว้สำหรับชดเชยแทนกองทุนน้ำมันที่ขณะนี้กำลังติดลบอยู่       

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันเตรียมแก้ปัญหาของแก๊ส ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากหลายมิติ ไม่ใช่มาจากไทยอย่างเดียว แต่มาจากต้นทุนทางด้านพลังงานที่ไทยได้พึ่งพาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำเข้ามา ดังนั้น หากไปเปรียบเทียบดูกับรอบบ้าน อยากให้นำไปพิจารณาว่าแต่ละประเทศดำเนินการอย่างไร รวมถึงภูมิภาคประสบปัญหาอย่างไร แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะมีราคาน้ำมันถูกกว่าไทย นั่นเพราะมีแหล่งพลังงาน จึงอยากให้เปรียบเทียบดูกับประเทศของตนเองว่ามีแหล่งพลังงานหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้รอการแก้ปัญหาอีกเล็กน้อย แต่ย้ำว่าการดูแล รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่มีรายได้น้อย ไม่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันขณะนี้ผกผันมากพอสมควร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกนาน จึงต้องมาพิจารณาว่าจะนำเงินจากไหนมาอุดหนุนในจุดนี้ โดยจะต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ทั้งการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท ปรับสูตรน้ำมัน รวมถึงกำลังพิจารณาเรื่องภาษีสรรพสามิต ซึ่งหากลดลงไปก็จะเกี่ยวพันกับการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่จะต้องลดลงไปมาก จึงต้องพิจารณาว่าจะกระทบกับส่วนอื่นๆ หรือไม่


“จะสามารถลดภาษีได้แค่ไหน ต้องมีการรับฟังเหตุผลรอบด้าน จะตามใจทุกคนไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาตามมาอีกเยอะ เพราะขณะนี้ใช้วงเงินในการอุดหนุนน้ำมันถึงเดือนละ 3,000 กว่าล้านบาท หากระยะเวลาในการแก้ปัญหายืดไปถึง 6 เดือน ก็จะใช้งบถึง 18,000 ล้านบาท ไหนจะต้องแก้ปัญหาเรื่องแก๊สอีก แต่ย้ำว่าทุกอย่างรัฐบาลจะตรึงราคาไว้ให้มากที่สุด ขอความเข้าใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องบริหารเช่นนี้” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวได้ขอร้องกลุ่มรถบรรทุกไปหลายครั้งแล้ว เห็นว่าเข้าใจไปส่วนหนึ่งแล้ว และที่ผ่านมาก็ได้ทำความเข้าใจมาโดยตลอด พร้อมชี้แจงว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติหลายด้านด้วยกัน และไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอวิกฤติที่มาพร้อมๆ กัน ทั้งเรื่องโควิด ปัญหาราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน การแข่งขันทางการค้า ตั้งแต่เรื่องความมั่นคงในภูมิภาค ความขัดแย้งทางทะเล การแข่งขันการลงทุน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยพภาพที่ดีอีกมาก ส่วนตัวจะพยายามพูดคุยกับต่างประเทศที่มาพบ และทุกคนต่างชื่นชมประเทศไทยที่แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ย้ำว่าไม่ใช่การคุยโวว่าสามารถแก้ปัญหาทุกมิติได้ แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกำลังจะเกิดสิ่งดีๆ ในประเทศอีกมาก จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้นำเสนอสิ่งดีๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องแก้ปัญหา ก็ต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป อย่านำปัญหาฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมืองมาขัดแย้งกัน ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าไม่ได้ และก็ไม่มีใครเขาทำกัน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย