“วิลาศ”ยื่นสอบปูหินทางเท้ารัฐสภาส่อผิดกฎหมาย

รัฐสภา 7 ก.พ.- “วิลาศ” ยื่นเลขาสภาฯสอบคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ กรณีปูหินทางเท้ามูลค่ากว่า 7 ล้านส่อผิดกฎหมาย


นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจการจ้าง กรณีการแก้ไขแนวระยะร่นจากการขยายถนนสามเสน จากกรณีในการประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้าง(คตจ.) โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ครั้งที่ 32/2564 วันที่ 8 มิ.ย. 64 ที่ประชุมมีมติ 6:3 เสียง เห็นว่า แบบก่อสร้างที่ปรากฎในพื้นที่ทางเท้าระยะ 5 เมตร ของกทม.อยู่นอกเขตสัญญาก่อสร้าง ทั้งนี้เพราะสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้ว่าจ้าง ไม่ได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ผู้รับจ้างก่อสร้างตามเอกสารผนวก 13 เมื่อ คตจ.มีมติดังกล่าวจึงมีปัญหาต่อไป กล่าวคือเมื่อ คตจ. มีมติว่าพื้นที่ทางเท้าเป็นของกทม. ผู้ว่าจ้างจึงไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ ต้องมีการคิดค่างานลดจากการไม่ได้ปูหินวิทิตาในระยะถอยร่น 5 เมตรดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ 6:3 เรื่องเห็นว่าพื้นที่ทางเท้าของกทม. อยู่นอกขอบเขตงานตามสัญญา จึงไม่ต้องทำงานในส่วนนี้แต่ในบันทึกการประชุมดังกล่าวไม่มีบันทึกว่าไม่มีค่างานลด 7 ล้านบาทเศษด้วยหรือไม่ จึงเห็นว่าการคิดราคางานในการประมูล ผู้รับจ้างจะต้องทำงานตามรูปแบบ อีกทั้งมีการทำ Shop Drawingถ้าไม่มีการถอยระยะร่น 5 เมตร ผู้รับจ้างต้องปูหินวิทิตาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ฉะนั้นเมื่อมีมติคตจ.ว่าไม่ได้มีการส่งมอบพื้นที่เพราะเป็นพื้นที่ของกทม. ก็จะต้องลดเงินเพราะอยู่ในแบบและมีการทำ Shop Drawing ยืนยันแล้ว จึงขอให้ตรวจสอบว่ามติของคตจ. ชอบด้วยเหตุผลหรือไม่ ถูกต้องตามระเบียบและข้อกฎหมายหรือไม่

นอกจากนี้ นายวิลาศยังยื่นหนังสือถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อีก 1 ฉบับกรณีได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าตั้งแต่เดือนเม.ย. 64 ซึ่งอยู่ในช่วงที่การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งมีการก่อสร้างหลายรายการที่สภาฯสั่งให้แก้งาน อีกทั้งยังมีงานหลายรายการที่ผู้รับจ้างกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยังขัดแย้งกันในกรณีที่ผู้รับจ้างขอคิดราคางานเพิ่มและบางครั้งขอสงวนสิทธิ์ขยายระยะเวลาก่อสร้าง แต่ในการประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้าง (คตจ.) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 65 มีการพูดถึงเรื่องการคืนยานพาหนะจำนวนหลายคันและอุปกรณ์สำนักงาน ในที่ประชุมมีการกล่าวหากันว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาส่งคืน บางคนกล่าวอ้างว่าได้รับคำสั่งจากกรรมการตรวจการจ้างให้ส่งคืน และบางคนกล่าวอ้างว่าผู้รับจ้างเรียกคืน เห็นว่า การส่งคืนทั้งยานพาหนะจำนวนหลายคันและอุปกรณ์สำนักงานดังกล่าว ไม่ว่าจะเกิดจากใครก็ตาม เป็นการกระทำที่ผิดจากข้อสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาฯ ทำให้สภาฯมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จึงขอให้ตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดทางละเมิดและลงโทษตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.