กรุงเทพฯ 25 ม.ค.- “สมศักดิ์-อนุชา” ลงพื้นที่ช่วย “มาดามหลี” หาเสียง วอนเลือกคนรัฐบาลสานงานต่อ เชื่ออยู่ครบเทอม ย้ำหมดปัญหาใน พปชร.-พรรคร่วม ฝันร้ายหมอกควันจางแล้ว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงเลือกตั้ง
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มาช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมพื้นที่จตุจักรหลักสี่ เพราะครอบครัวเจนจาคะเป็นคนทำงาน พื้นที่นี้ โดยเฉพาะช่วงที่มีโควิดระบาด และในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาล นายกฯ ก็ทุ่มเททำงานให้กับประชาชนหลายอย่าง แก้ปัญหาวิกฤติต่างๆ นายกฯ เข้มแข็งอดทน จึงอยากมาบอกประชาชนว่าขอให้เลือกคนของรัฐบาล เข้ามาช่วยกันสานงานต่อ ก่องานใหม่ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลก็จะทำงานอยู่ให้ครบวาระ ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 1 ปี 2 เดือน ขอให้ประชาชนช่วยให้กำลังใจ นางสรัลรัศมิ์ หมายเลข 7 พร้อมกันนี้ ยืนยันกระเเสขัดเเย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ และในพรรคร่วมรัฐบาล จบลงแล้ว และในพรรคพลังประชารัฐก็ลงตัว มีความเข้มแข็งขึ้นเพราะมีความชัดเจน มันใจว่าจะเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับกรณีนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ที่อยากขอกลับพรรคพลังประชารัฐ นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบคืออยากกลับมาจริง แต่ไม่ทราบขั้นตอนของกฎหมายจึงให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายพรรค และส่วนตัวตนก็อยากเชียร์ให้กลับ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคควรต้องรีบตั้งหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่ที่ประชุมพรรค แต่ขณะนี้ไม่มีความขัดแย้งแล้ว พร้อมกล่าวติดตลก ว่า เสียดายที่ตนปฏิเสธตำแหน่งนี้ไปแล้ว ส่วนเรื่องสภาล่มบ่อย จะทำอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาล่ม แต่จากนี้ไปจะดีขึ้น และสมัยประชุมนี้เหลือเพียงหนึ่งเดือนเศษ จึงเชื่อว่าหากหากมีเลขาธิการพรรค และทำอะไรเรียบร้อย เชื่อว่าทุกอย่างจะลงตัว จากนี้ไปฝันร้ายหรือหมอกควันที่รุนแรงก็กำลังจะจางไป
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ว่า รัฐมนตรีทุกคนเตรียมพร้อมตอบคำถาม ถ้าหากเตรียมตัวดีก็เท่ากับได้นำเสนอผลงาน และถือเป็นเรื่องดีที่มีโอกาสชี้แจง และนำเสนอผลงานของตัวเอง ไม่ต่างจากที่ผ่านมาที่ตนได้ไปตอบกระทู้อย่างสม่ำเสมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายสมศักดิ์และนายอนุชา ช่วยช่วยนางสรัลรัตน์ หาเสียง ได้พบกับนายมงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำผู้สมัครของพรรคมาหาเสียงด้วย ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์ยืนยันว่าการลงพื้นที่จุดนี้ไม่ได้ไม่ได้ตั้งใจมาป่วนพรรคพลังประชารัฐเพราะวางกำหนดการไว้ก่อนแล้ว และยืนยันว่าเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้ไปป่วนเช่นกัน
ส่วนการไปลงบันทึกประจำวันจากกรณีเมื่อวานนี้ที่ถูกผู้นำชุมชนสะพานไม้สองกีดกัน ไม่ให้เข้าหาเสียงภายในชุมชน นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า เป็นการไปร้องเอาผิดผู้นำชุมชนและพวก ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้ร้องเอาผิดในกรณีนี้ แต่จะมีความผิดหากพลเอกประวิตร ไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ว่าจะเป็นผู้ช่วยหาเสียง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพลังประชารัฐมีการสลับสับเปลี่ยนมีการสลับสับเปลี่ยนรัฐมนตรี และส.ส.ลงมาช่วยผู้สมัครหาเสียง เกิน 20 คนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคเล็กกับภาพใหญ่ใช่หรือไม่ .- สำนักข่าวไทย