พรรคไทยสร้างไทย 12 ม.ค.-รองโฆษกไทยสร้างไทยเรียกร้อง “พล.อ.ประยุทธ์” รับผิดชอบที่ปล่อยให้กระทรวงเกษตรฯ ปกปิดข้อมูลโรคระบาด ASF ชี้อาจเป็นภัยมั่นคงทางด้านอาหาร
นายพชรกร อรรณนพพร รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ถามหาความรับผิดชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล หลังอธิบดีกรมปศุสัตว์ยอมรับว่าสาเหตุที่หมูล้มตายทั่วประเทศเกิดจากเชื้อ ASF ไม่ใช่ไวรัสเพิร์สตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ ซึ่งการยอมรับของอธิบดีกรมปศุสัตว์เกิดจากความจำนนในหลักฐาน ไม่ใช่เกิดจากความตั้งใจที่จะบอกความจริงกับผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ ถือเป็นความผิดพลาดบกพร่องอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะได้สร้างความเสียหายกับประชาชนทั้งในฐานะผู้เลี้ยงหมูและในฐานะผู้บริโภค
“การไม่ยอมรับว่ามีการระบาดของชื้ออหิวาต์แอฟริกา ASF ในหมู ยิ่งทำให้สถานการณ์การระบาดของโรค ASF ย่ำแย่จนไม่สามารถควบคุมได้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโรคลัมปีสกินในวัว ซึ่งกว่าจะยอมรับได้ก็ระบาดไปทั่วแล้ว มาครั้งนี้ก็จำเป็นต้องยอมรับเพราะจำนนด้วยหลักฐาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยของบประมาณจากครม.กว่า 500 ล้านบาท เอาไปชดใช้หมูที่ถูกทำลาย แสดงว่านายกรัฐมนตรีเองก็รู้ว่ามีการระบาดของเชื้อ ASF มาก่อนใช่หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะอนุมัติงบไปได้อย่างไร แต่กลับปล่อยให้บุคคลระดับอธิบดีออกมาปฎิเสธหน้าตาเฉย” นายพชรกร กล่าว
นายพชรกร กล่าวว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกี่ยวกับหมู ทั้งหมูตาย หมูแพง หรือปัญหาการส่งออกผลิตภัณฑ์หมู นายกรัฐมนตรีจะปฎิเสธความรับผิดชอบได้อย่างไร เรื่องใหญ่ระดับประเทศขนาดนี้ จะปล่อยให้เป็นเรื่องของอธิบดีกรมปศุสัตว์เพียงคนเดียวได้อย่างไร ตอนนี้ราคาหมูแพงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ ประชาชนก็ไปเลือกซื้อเนื้อสัตว์ประเภทอื่นทดแทน ทำให้ราคาสินค้าเนื้อสัตว์อื่นแพงขึ้นตามไปด้วยจนส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่
“ถ้าหมูไทยถูกคว่ำบาตรจากทั่วโลกเพราะการปกปิดข้อมูลของภาครัฐ ประเทศไทยอาจตกอยู่ในภาวะภัยความมั่นคงทางอาหารได้ ทั้งที่ประเทศไทยมีศักยภาพที่เป็นครัวของโลกได้ แต่ต้องมาล้มเหลวภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างปฎิเสธไม่ได้” นายพชรกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย