กรุงเพฯ 31 ธ.ค.-“จุรินทร์” เชื่อแก้ รธน. แล้ว ปีหน้าประชาชนมีสิทธิเลือกมากขึ้น ไม่ฟันธงใครได้เปรียบจากการแก้ รธน. ชี้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คาดการถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปีหน้า หลังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้ง กลับมาใช้ระบบบัตร 2 ใบว่า ประชาชน จะมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกตั้งได้มากขึ้น เพิ่มความสำคัญของพรรคการเมือง จึงมั่นใจว่า จะสนับสนุนประชาธิปไตยมากขึ้น จากเดิมที่บัตรเลือกตั้งมีเพียงใบเดียว ใช้เลือกทั้งคน และพรรค ส่วนพรรคใดจะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจใช้สิทธิของประชาชน พร้อมย้ำว่า การเสนอแก้ไขดังกล่าวของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เสนอแก้ไข เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่แก้เพื่อประชาชนทั้งประเทศ และทำให้ประชาธิปไตยของประเทศพัฒนาขึ้น ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหน้าที่ ตามที่พรรคฯ เสนอเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ในการแก้รัฐธรรมนุญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนการแก้ไขในประเด็นอื่นๆ นั้น ก็ถือเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง
ส่วนระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ จะสร้างความได้เปรียบให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ย้ำว่า คำตอบการเลือกตั้งจะขึ้นอยู่กับประชาชน และยืนยันว่า การแก้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้แก้เพื่อใคร หรือเพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่แก้ไขเพื่อประชาชน และประโยชน์ของประเทศ ให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ผลที่จะตามมานั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
ส่วนการคาดการในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่นั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า สามารถคาดการณ์ได้ยาก และไม่มีใครสามารถคาดการได้ว่า การเลือกตั้งจะมาถึงเมื่อใด และจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองทั้งรัฐบาลลาออก หรือรัฐบาล จะยุบสภาในปี 2565 หรือไม่ แต่หากรัฐบาล สามารถอยู่ทำหน้าที่ได้จนครบวาระ ในปี 2566 ก็ถือเป็นเงื่อนเวลาที่ชัดเจน พร้อมยืนยันถึงความเหนียวแน่นของรัฐบาลว่า ยังคงสามารถทำหน้าที่ร่วมกันได้ และพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงมุ่งทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี จะเริ่มต้นนับเมื่อใด โดยเห็นว่า อาจจะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้วินิจฉัย หากมีผู้ยื่นให้วินิจฉัยว่า วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น นับรวมถึงสมัยรัฐบาล คสช. ด้วยหรือไม่ หรือเริ่มนับหลังการเลือกตั้งในปี 2562
ส่วนการเตรียมตัวของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งถัดไปนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า พรรคฯ ได้เตรียมตัวมาโดยตลอด ทั้งบุคคล นโยบาย และการสร้างจุดขายสำคัญของพรรคฯ รวมถึงการเตรียมผู้สมัคร ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน / อดีต ส.ส. และสมาชิกใหม่ เหลือเพียงบางพื้นที่เท่านั้น ที่มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม จึงจะต้องสรรหาผู้สมัครเพิ่มเติม แต่พรรคก็มีบุคคลพร้อม รอเพียงการคัดสรรเท่านั้น พร้อมยอมรับว่า ส.ส.สมาชิกของพรรค มีทั้งคนลาออก และสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ เหมือนหลาย ๆ พรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคการเมือง จะต้องเผชิญสถานการณ์นี้ ในช่วงการเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงมีเลือดใหม่ไหลเข้า และเลือดเก่าไหลกลับ โดยพรรคฯ จะทยอยเปิดตัวให้ประชาชนทราบต่อไป
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงฐานเสียงในพื้นที่ภาคใต้ ที่พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย จะพยายามครองพื้นที่ว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะรูปแบบการเมือง หรือสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป หลายภาค พรรคการเมือง ไม่สามารถยึดครองเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ มีพรรคการเมืองเกิดใหม่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองปกติ
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมร่วมรัฐสภาว่า พรรคประชาธิปัตย์ เคยเสนอแก้ไขไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบในการพิจารณา เพราะแม้เห็นว่า วุฒิสภา เป็นสภาที่มีความจำเป็น ตามระบบ 2 สภา แต่วุฒิสภา ควรมีบทบาทจำกัด ในฐานะที่เป็นสภา ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงควรกลั่นกรองกฎหมาย ควบคุมการบรหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และไม่ควรมีบทบาทในการเลือกนายก เหมือน ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า หลักการ และจุดยืน ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอนาคตจะมีผู้ใดเสนอแก้ไข และพรรคจะสนับสนุนหรือไม่นั้น ก็ยังจะต้องพิจารณาถึงเนื้อหา และหลักการที่แท้จริงอื่น ๆ ด้วย.-สำนักข่าวไทย