กทม. 10 ธ.ค. – ไทยสร้างไทย ย้ำชัดจุดยืนสร้างรัฐธรรมนูญของประชาชน เสนอรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ม.256 เปิดทางตั้ง ส.ส.ร. ฝ่าทางตันแก้วิกฤตความขัดแย้งหาทางออกให้กับประเทศ
พรรคไทยสร้างไทย ร่วมเวทีอภิปรายสาธารณะ เรื่อง “วิกฤตรัฐธรรมนูญ ในวันรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย” เนื่องในวันรัฐธรรมนูญและวันสิทธิมนุษยชนสากล ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การเริ่มต้นคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด ในวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันประชาธิปไตย เพราะหลักการของพรรคไทยสร้างไทย คือการมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเสียงทุกเสียงของประชาชนจึงมีความสำคัญ เพราะปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะวิกฤตการเมือง และวิกฤตเศรษฐกิจ มาจากแนวคิด ‘อำนาจนิยม’ และ ‘รัฐราชการ’ ที่คิดจากบนลงล่าง แต่ทุกนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยจะไปรับฟังเสียงของประชาชนทุกกลุ่มในทุกจังหวัด เพื่อให้ประชาชนสะท้อนทุกปัญหา และทุกความต้องการมาร่วมคิดร่วมสร้างนโยบายไปด้วยกัน
การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องสร้างพลังให้กับประชาชน (Empower) และต้องปลดปล่อยประชาชน (Liberate) จากระบบรัฐราชการ เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน แหล่งความรู้ และการตลาด ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขจัดอุปสรรคที่ขวางกั้นการทำมาหากิน ที่เกิดจากพันธนาการของรัฐราชการ และกฎหมายที่กดทับโอกาสของพวกเขา รวมถึงการส่งเสริมเทคโนโลยีในการเข้ามาช่วยการบริหารราชการ เช่น บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งมีหลักการสำคัญในการกระจายจากการรวมศูนย์เหมือนกับประชาธิปไตย จึงขอนำวันรัฐธรรมนูญ เป็นจุดเริ่มต้นของการคิกออฟคาราวาน “สร้างไทย 77 จังหวัด” ทั้งประเทศไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ย้ำจุดยืนในการสร้างรัฐธรรมนูญของประชาชนว่า ต้องการให้บรรลุเป้าหมาย 2 ประการ ด้วยการผลักดันให้มีการทำประชามติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความไว้ และเสนอให้แก้กฎหมายเพียงมาตราเดียวเพื่อเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างเสร็จแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยให้ ส.ส.ร.มีส่วนร่วมในการแก้ไขเป็นรายประเด็น
ด้าน ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สรุปบทเรียนจากการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2539 จนสำเร็จเป็นรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มีกลไกการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งรัฐธรรมนูญทุกฉบับนับตั้งแต่ปี 2475 ระบุว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนและแม้ฉบับชั่วคราวที่ประกาศใช้หลังรัฐประหารก็บัญญัติเช่นนี้ แต่ตามข้อเท็จจริงเป็นเพียงวาทกรรมของคณะผู้ยึดอำนาจเท่านั้น
ที่ผ่านมารัฐสภาได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราในหลายเรื่อง สำเร็จเพียงแค่อย่างเดียวคือระบบการเลือกตั้งที่ผู้มีอำนาจรัฐได้ประโยชน์ ขัดกับหลักการการร่างรัฐธรรมนูญของคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ไม่ต้องการให้คะแนนเสียงตกน้ำ ส่วนการลดอำนาจ ส.ว.ก็ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ ดังนั้นทางออกจึงมี 3 แนวทางคือกดดันนายกรัฐมนตรีให้ทำประชามติ ตามแนวทางศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วินิจฉัยไว้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา และการแก้ไขบทบัญญัติในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มี ส.ส.ร.ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อตั้ง ส.ส.ร.เป็นทางออกที่ประนีประนอม และทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ ส.ส.ร.ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของรัฐสภา ตามข้อบังคับที่จะต้องตราเพิ่มเติมต้องจัดทำรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน โดยผ่านการรับฟังความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา องค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานต่างๆ จากนั้นให้รัฐสภาลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่ หากไม่เห็นชอบต้องจัดทำประชามติโดยไม่ก่อน 90 วัน แต่ต้องไม่ช้ากว่า 120 วัน เพื่อให้มีการรณรงค์และให้ความรู้ในร่างรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ สร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนในรัฐธรรมนูญให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ร่างข้อเสนอดังกล่าว สามารถเสนอผ่าน 3 ช่องทาง คือคณะรัฐมนตรี , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา และการเข้าชื่อของประชาชนจำนวน 50,000 รายชื่อ ซึ่งหากรัฐสภาเห็นชอบกับข้อเสนอญัตติดังกล่าว ก็จะเป็นทางออกให้กับสังคมอีกทางหนึ่ง เพื่อฝ่าวิกฤตทางตันความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สร้างทางออกที่ดีที่สุด และง่ายที่สุดสำหรับประเทศไทย
อนึ่ง พรรคไทยสร้างไทย จะมีการแถลงในเรื่องนี้และเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามประเด็นข้างต้นต่อไป. – สำนักข่าวไทย