ปชป. 10 ธ.ค.- โฆษกประชาธิปัตย์ เผยพรรคเตรียมส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม “ชุมพร-สงขลา” พร้อมสู้กับทุกพรรคการเมือง
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ 3 คน ว่า ในส่วนของนายชุมพล จุลใส ส.ส. เขต 1 จังหวัดชุมพร และ นายถาวร เสนเนียม ส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลา จะได้มีการจัดการเลือกตั้งซ่อมใน 2 เขต ภายใน 45 วัน ส่วนนายอิสสระ สมชัย ส.ส. บัญชีรายชื่อ ก็จะได้มีการขยับบุคคลที่อยู่ในบัญชีลำดับถัดไปขึ้นมา โดยในวันนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการนัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน และมีมติว่าในเบื้องต้นได้กำหนดให้มีการยื่นใบสมัครในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2564 เวลา 8.30-16.00 น. เพื่อให้สมาชิกพรรคที่มีคุณสมบัติครบได้มายื่นแจ้งความจำนงเข้ารับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ขณะที่วานนี้มีผู้มายื่นความจำนงแล้ว 2 คน ประกอบด้วยนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วย ส.ส. ของนายจุมพล จุลใส ปัจจุบันเป็นเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ได้แสดงความจำนงขอสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 1 จังหวัดชุมพร และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และเป็นผู้นำสตรีจังหวัดสงขลา แสดงความจำนงขอสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 6 จ สงขลา ซึ่งพรรคก็รับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของพรรคต่อไป
กล่าวคือหลังจากการปิดรับใบสมัครในวันที่ 11 ธ.ค. แล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้จะได้ส่งรายชื่อผู้แสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กลับไปยังจังหวัดชุมพร และสงขลา เพื่อให้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกพรรค หลังจากนั้นจะได้นำความคิดเห็นส่งกลับมาที่คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร เพื่อทำการสรุปเนื้อหาเสนอต่อที่ประชุม กก.บห. ต่อไป ส่วนการดำเนินการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายราเมศกล่าวว่า เมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งซ่อม พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมหาเสียงเลือกตั้งใน 2 เขตนี้อย่างเต็มที่ สู้ศึกอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ยึดมั่นการรณรงค์หาเสียงที่อยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต
“ต้องยอมรับว่าอดีต ส.ส. ของพรรค ทั้งนายจุมพล จุลใส และนายถาวร เสนเนียมนั้น เป็น ส.ส. ที่มีคุณภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การทำหน้าที่ ส.ส. ในนามพรรคได้ทำงานร่วมกับประชาชน และให้ความช่วยเหลือ ดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นบทบาทของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะชี้ให้เห็นในวันข้างหน้าว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคคาดหวังที่จะให้ผู้สมัครเป็นผู้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในครั้งนี้ทั้ง 2 เขต ส่วนพรรคอื่นจะส่งอย่างไรหรือไม่ เราไม่สามารถก้าวล่วงได้ พรรคจะไม่มีการไปขอหรือวิงวอนให้พรรคการเมืองไหนส่ง หรือไม่ส่งผู้สมัคร เราทำหน้าที่ในฐานะพรรคการเมืองของเราให้ดีที่สุด” นายราเมศกล่าว
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าจากสนามเลือกซ่อมในเขตพื้นที่ใต้นั้น ประชาธิปัตย์สูญเสียไปหลายที่นั่งนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จะนำเรื่องนั้นมาเป็นตัวชี้วัดในเขตเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้ เพราะขณะนี้พรรคเก็บข้อมูลมาตลอด และเชื่อมั่นว่าคะแนนเสียง รวมถึงกระแสความชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์นั้น พี่น้องประชาชนยังให้ความศรัทธา และการมีทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกับพี่น้องประชาชนมาตลอด ก็เชื่อว่าประชาชนยังมีความรักในพรรคประชาธิปัตย์อยู่ และ 2 เขตนี้ก็เป็นตัวชี้วัดว่าพรรคมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปในเร็วๆ นี้ด้วย โดยพรรคจะใช้ศักยภาพทั้งหมด รวมทั้งบุคลากรช่วยกันรณรงค์หาเสียงอย่างเต็มที่
“ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสมัย พรรคพร้อมที่จะแข่งการเลือกตั้งกับทุกพรรคการเมือง พลังประชารัฐเราไปก้าวล่วงเขาไม่ได้ว่าจะส่งหรือไม่ส่ง และจะหาเสียงด้วยกระบวนการ หรือยุทธศาสตร์แบบไหน แต่เรายืนยันในหลักการหาเสียงของเราได้ว่า เราพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกพรรคการเมือง” นายราเมศกล่าว
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการส่งผู้สมัครเพื่อแข่งกันเองในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นปัญหาหรือไม่นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง เมื่อมีการเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ก็เชื่อว่าทุกพรรคคาดหวังที่จะมีที่นั่งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดา เมื่อทุกพรรคตั้งธงลงแข่งทุกสนาม จะไปตอบแทนพรรคอื่นไม่ได้ แต่พรรคพร้อมชนทุกพรรค .-สำนักข่าวไทย