“สาทิตย์” ชี้ 5 ส.ส. ถูกวินิจฉัยพ้นสมาชิกภาพ ต่อสู้เพื่อ ปชช.

รัฐสภา 8 ธ.ค.-“สาทิตย์” สอนอย่ามองคนเห็นต่างเป็นคนไม่ดี พร้อมชี้ ส.ส. 5 คน ที่ถูกศาล รธน.วินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ เป็นการต่อสู้เพื่อ ปชช. และประเทศ ไม่ให้ถูกย่ำยีจากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม


(8 ธ.ค. 64) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. ….

โดยระบุว่า เหตุที่ลุกขึ้นอภิปรายนี้ ไม่ใช่มาจากคำท้าทายใด ๆ ของเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไม่มีสมาชิกจากฝ่ายรัฐบาลพูด พร้อมกับท้าทายว่าจะต้องมีใครสักคนหนึ่งลุกขึ้นพูด แต่การลุกขึ้นอภิปรายของตนในครั้งนี้มีประเด็นที่ได้ให้ความสนใจมาตั้งแต่ต้นแล้ว


เนื่องจากเคยมีญัตติที่ให้ศึกษาเรื่องของประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ มาตั้งแต่ก่อนที่จะย้ายเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ และตนก็เป็นคนหนึ่งที่เสนอญัตติฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นการเสนอตั้งแต่เริ่มเปิดสมัยประชุมรัฐสภา แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไประยะหนึ่ง และมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทำให้ในการอภิปรายญัตติที่จะนำไปสู่การศึกษาในเรื่องประกาศ คำสั่ง ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาตินั้น เกิดสถานการณ์ที่มีความเห็นของเพื่อนสมาชิกไม่ตรงกัน จนนำไปสู่การลงมติ แต่แล้วญัตติฉบับนั้นก็ไม่มีการลงมติทำให้ไม่มีการนำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ

นายสาทิตย์กล่าวว่า ในญัตตินั้นตนเป็นคนหนึ่งที่ขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นเพราะในระบบกฎหมายไทย เรื่องของประกาศ คำสั่งคณะปฏิวัติไม่ได้เพิ่งมีเป็นครั้งแรก ตลอดการปฏิวัติ 10 กว่าครั้ง ทุกครั้งก็จะมีประเด็นความเห็นต่อประกาศและคำสั่งของคณะปฏิวัติที่แตกต่างกัน

โดยตนได้เคยอภิปรายว่า มีผู้นำไปฟ้องศาล แล้วในที่สุดก็มีคำวินิจฉัย หรือคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นแนวทางในการวางระบบของคำสั่งคณะปฏิวัติอยู่เหมือนกัน ในเวลาเดียวกันกับที่มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาวางแนวเอาไว้เรื่องของคำสั่งของคณะปฏิวัติเช่นเดียวกัน แต่ประกาศและคำสั่งของ คสช.นั้นจะมีความแตกต่างจากการยึดอำนาจในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาตินั้นอยู่ในอำนาจค่อนข้างยาวนาน ทำให้มีประกาศและคำสั่งหลายฉบับที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับเรื่องการควบคุมสถานการณ์ และตนก็เคยอภิปรายว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นในขณะนั้นจะสามารถไปศึกษาได้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องของระบบกฎหมายที่ประกาศและคำสั่งนั้นอาจจะยังมีความจำเป็นอยู่จนกว่าจะมีการประกาศยกเลิก และบางประกาศ บางคำสั่ง ก็เป็นเรื่องซึ่งไม่ควรที่จะให้มีผลบังคับใช้อีกต่อไป โดยให้ กมธ. ได้เสนอให้มีการยกเลิก


สำหรับกฎหมาย 2 ฉบับที่เสนอมาในการพิจารณาครั้งนี้ นายสาทิตย์มองว่า มีสองเรื่องปะปนกัน และตนก็ไม่เห็นด้วยอย่าง กรณีของคำสั่งที่ 64/57 ก็ดี หรือการแก้ไขปัญหาในคำสั่งที่ 66/57 เรื่องการทวงคืนผืนป่า หรือแม้แต่กระทั่ง คำสั่งที่ 31/2560 ที่ผู้เสนอกฎหมายภาคประชาชนพูดถึงเรื่อง สปก. ก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ในประกาศและคำสั่งของคณะยึดอำนาจในขณะนั้น เนื่องจากการที่จะออกเป็นกฎหมายนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการคำนึงถึงผลดีผลเสียด้วย

ในเรื่องของ สปก. เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก จนบัดนี้คำสั่งนี้ก็ยังอยู่ และมีผลการกระทำเกิดขึ้นแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรจะต้องยกเลิก เพียงแต่มีปัญหาว่า เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาร่วมกัน ซึ่งผู้ที่เสนอกฎหมายก็อาจจะมีการศึกษาในส่วนของท่าน แต่ในสภานี้มีความเห็นที่หลากหลาย ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยปะปนกันไป หากจะเหมารวมคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา ว่าเป็นคนสนับสนุนเผด็จการก็ดี หรือจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจหลักการและเหตุผลประชาธิปไตยก็ดี อย่าเพิ่งไปสรุปเหมารวมเช่นนั้น และตนเป็นคนหนึ่งที่สนับสนุน ในเรื่องคำสั่งประกาศของคณะยึดอำนาจบางเรื่อง เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับการควบคุมสถานการณ์ ประกาศคำสั่งเหล่านี้ต้องยกเลิก แต่บางเรื่องที่พ้นสมัยไปแล้วก็ต้องยกเลิก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำ อย่างที่ในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกันก็มีการประกาศยกเลิกไปแล้วในบางส่วน

นายสาทิตย์กล่าวว่า เหตุที่ตนชี้แจงเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นจุดยืนให้ทราบว่า ถ้าเราจะโหวตอะไรไปในสภานี้ อย่าไปเหมารวมคนอื่นแบบนั้น

“เหมือนเพื่อนสมาชิกพาดพิงถึงเพื่อนอดีตส.ส. ของเราที่วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาว่า ให้พ้นสมาชิกภาพ ท่านไปอภิปรายโดยใช้คำพูดว่า มี 5 คนที่ไปขัดขวางการเรียกร้องประชาธิปไตยและในที่สุดก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพ ท่านไม่รู้หรอกว่า 5 คนนั้นที่ถูกศาลวินิจฉัยวันนี้ เขาต่อสู้กับอะไรมา เขาพบกับอะไรมา การลุกขึ้นต่อสู้ของเขาในครั้งนั้นเป็นเรื่องของการต่อสู้กับ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการย่ำยีทั้ง นิติรัฐและนิติธรรมในประเทศนี้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

และเมื่อเขาออกมาต่อสู้แล้วเขาก็พร้อมไม่มีการหนี การดำเนินคดีใด ๆ ก็ต่อสู้คดีในชั้นศาลจนถูกศาลพิพากษา เมื่อพิพากษาไปแล้ว ในบางเรื่องเขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ของเขาตามรัฐธรรมนูญยื่นไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้เขาพ้นจากสมาชิกภาพ เขาก็ยอมรับคำวินิจฉัยนั้น ไม่ได้เป็นคนที่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ตรงกับตัวเองก็ไม่ชอบ ถ้าวินิจฉัยตรงกับความคิดตัวเองก็ชอบไม่ใช่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นอย่าไปเหมารวมคนอื่น ว่าจะเป็นคนซึ่งคิดเห็นไม่ตรงกับท่านแล้วจะต้องเป็นคนที่ไม่ดีไปทั้งหมด หรือแม้แต่กระทั่งไปตีขลุมเพื่อนสมาชิกของเรา 5 คน ที่ต่อสู้บนท้องถนนร่วมกับพี่น้องประชาชนมา มีคนเสียเลือดเสียเนื้อมากมาย แต่เขาก็ยอมรับกระบวนการพิจารณาในทางศาลเขาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความยุติธรรมกับเขา” นายสาทิตย์กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า การโหวตใด ๆ ของเพื่อนสมาชิกเราคงไปบังคับอะไรกันไม่ได้เพราะเป็นเอกสิทธิ์โดยรัฐธรรมนูญ ตนจะโหวตอย่างไร เพื่อนสมาชิกจะโหวตอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ และเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคน ในการลงคะแนนเสียงทั้งหลายนั้นถูกบันทึกเอาไว้เพราะฉะนั้นคนที่ลงก็จะต้องมีเหตุผลในการอธิบายต่อไปในอนาคตด้วย เป็นเรื่องของนิติบัญญัติโดยแท้ อย่าไปรวมความคิดเห็นอื่นเข้ามาในตัวร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย ดังนั้นจึงอยากจะลุกขึ้นแสดงความคิดความเห็นเอาไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]