“สาทิตย์” ชี้ 5 ส.ส. ถูกวินิจฉัยพ้นสมาชิกภาพ ต่อสู้เพื่อ ปชช.

รัฐสภา 8 ธ.ค.-“สาทิตย์” สอนอย่ามองคนเห็นต่างเป็นคนไม่ดี พร้อมชี้ ส.ส. 5 คน ที่ถูกศาล รธน.วินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ เป็นการต่อสู้เพื่อ ปชช. และประเทศ ไม่ให้ถูกย่ำยีจากการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม


(8 ธ.ค. 64) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. ….

โดยระบุว่า เหตุที่ลุกขึ้นอภิปรายนี้ ไม่ใช่มาจากคำท้าทายใด ๆ ของเพื่อนสมาชิกที่บอกว่าไม่มีสมาชิกจากฝ่ายรัฐบาลพูด พร้อมกับท้าทายว่าจะต้องมีใครสักคนหนึ่งลุกขึ้นพูด แต่การลุกขึ้นอภิปรายของตนในครั้งนี้มีประเด็นที่ได้ให้ความสนใจมาตั้งแต่ต้นแล้ว


เนื่องจากเคยมีญัตติที่ให้ศึกษาเรื่องของประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ มาตั้งแต่ก่อนที่จะย้ายเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ และตนก็เป็นคนหนึ่งที่เสนอญัตติฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นการเสนอตั้งแต่เริ่มเปิดสมัยประชุมรัฐสภา แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไประยะหนึ่ง และมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ทำให้ในการอภิปรายญัตติที่จะนำไปสู่การศึกษาในเรื่องประกาศ คำสั่ง ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาตินั้น เกิดสถานการณ์ที่มีความเห็นของเพื่อนสมาชิกไม่ตรงกัน จนนำไปสู่การลงมติ แต่แล้วญัตติฉบับนั้นก็ไม่มีการลงมติทำให้ไม่มีการนำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ

นายสาทิตย์กล่าวว่า ในญัตตินั้นตนเป็นคนหนึ่งที่ขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นเพราะในระบบกฎหมายไทย เรื่องของประกาศ คำสั่งคณะปฏิวัติไม่ได้เพิ่งมีเป็นครั้งแรก ตลอดการปฏิวัติ 10 กว่าครั้ง ทุกครั้งก็จะมีประเด็นความเห็นต่อประกาศและคำสั่งของคณะปฏิวัติที่แตกต่างกัน

โดยตนได้เคยอภิปรายว่า มีผู้นำไปฟ้องศาล แล้วในที่สุดก็มีคำวินิจฉัย หรือคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นแนวทางในการวางระบบของคำสั่งคณะปฏิวัติอยู่เหมือนกัน ในเวลาเดียวกันกับที่มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาวางแนวเอาไว้เรื่องของคำสั่งของคณะปฏิวัติเช่นเดียวกัน แต่ประกาศและคำสั่งของ คสช.นั้นจะมีความแตกต่างจากการยึดอำนาจในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาตินั้นอยู่ในอำนาจค่อนข้างยาวนาน ทำให้มีประกาศและคำสั่งหลายฉบับที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับเรื่องการควบคุมสถานการณ์ และตนก็เคยอภิปรายว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นในขณะนั้นจะสามารถไปศึกษาได้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องของระบบกฎหมายที่ประกาศและคำสั่งนั้นอาจจะยังมีความจำเป็นอยู่จนกว่าจะมีการประกาศยกเลิก และบางประกาศ บางคำสั่ง ก็เป็นเรื่องซึ่งไม่ควรที่จะให้มีผลบังคับใช้อีกต่อไป โดยให้ กมธ. ได้เสนอให้มีการยกเลิก


สำหรับกฎหมาย 2 ฉบับที่เสนอมาในการพิจารณาครั้งนี้ นายสาทิตย์มองว่า มีสองเรื่องปะปนกัน และตนก็ไม่เห็นด้วยอย่าง กรณีของคำสั่งที่ 64/57 ก็ดี หรือการแก้ไขปัญหาในคำสั่งที่ 66/57 เรื่องการทวงคืนผืนป่า หรือแม้แต่กระทั่ง คำสั่งที่ 31/2560 ที่ผู้เสนอกฎหมายภาคประชาชนพูดถึงเรื่อง สปก. ก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ในประกาศและคำสั่งของคณะยึดอำนาจในขณะนั้น เนื่องจากการที่จะออกเป็นกฎหมายนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการคำนึงถึงผลดีผลเสียด้วย

ในเรื่องของ สปก. เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก จนบัดนี้คำสั่งนี้ก็ยังอยู่ และมีผลการกระทำเกิดขึ้นแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรจะต้องยกเลิก เพียงแต่มีปัญหาว่า เนื่องจากไม่ได้มีการศึกษาร่วมกัน ซึ่งผู้ที่เสนอกฎหมายก็อาจจะมีการศึกษาในส่วนของท่าน แต่ในสภานี้มีความเห็นที่หลากหลาย ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยปะปนกันไป หากจะเหมารวมคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา ว่าเป็นคนสนับสนุนเผด็จการก็ดี หรือจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจหลักการและเหตุผลประชาธิปไตยก็ดี อย่าเพิ่งไปสรุปเหมารวมเช่นนั้น และตนเป็นคนหนึ่งที่สนับสนุน ในเรื่องคำสั่งประกาศของคณะยึดอำนาจบางเรื่อง เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับการควบคุมสถานการณ์ ประกาศคำสั่งเหล่านี้ต้องยกเลิก แต่บางเรื่องที่พ้นสมัยไปแล้วก็ต้องยกเลิก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำ อย่างที่ในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกันก็มีการประกาศยกเลิกไปแล้วในบางส่วน

นายสาทิตย์กล่าวว่า เหตุที่ตนชี้แจงเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นจุดยืนให้ทราบว่า ถ้าเราจะโหวตอะไรไปในสภานี้ อย่าไปเหมารวมคนอื่นแบบนั้น

“เหมือนเพื่อนสมาชิกพาดพิงถึงเพื่อนอดีตส.ส. ของเราที่วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาว่า ให้พ้นสมาชิกภาพ ท่านไปอภิปรายโดยใช้คำพูดว่า มี 5 คนที่ไปขัดขวางการเรียกร้องประชาธิปไตยและในที่สุดก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพ ท่านไม่รู้หรอกว่า 5 คนนั้นที่ถูกศาลวินิจฉัยวันนี้ เขาต่อสู้กับอะไรมา เขาพบกับอะไรมา การลุกขึ้นต่อสู้ของเขาในครั้งนั้นเป็นเรื่องของการต่อสู้กับ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการย่ำยีทั้ง นิติรัฐและนิติธรรมในประเทศนี้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

และเมื่อเขาออกมาต่อสู้แล้วเขาก็พร้อมไม่มีการหนี การดำเนินคดีใด ๆ ก็ต่อสู้คดีในชั้นศาลจนถูกศาลพิพากษา เมื่อพิพากษาไปแล้ว ในบางเรื่องเขาก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ของเขาตามรัฐธรรมนูญยื่นไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้เขาพ้นจากสมาชิกภาพ เขาก็ยอมรับคำวินิจฉัยนั้น ไม่ได้เป็นคนที่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ตรงกับตัวเองก็ไม่ชอบ ถ้าวินิจฉัยตรงกับความคิดตัวเองก็ชอบไม่ใช่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นอย่าไปเหมารวมคนอื่น ว่าจะเป็นคนซึ่งคิดเห็นไม่ตรงกับท่านแล้วจะต้องเป็นคนที่ไม่ดีไปทั้งหมด หรือแม้แต่กระทั่งไปตีขลุมเพื่อนสมาชิกของเรา 5 คน ที่ต่อสู้บนท้องถนนร่วมกับพี่น้องประชาชนมา มีคนเสียเลือดเสียเนื้อมากมาย แต่เขาก็ยอมรับกระบวนการพิจารณาในทางศาลเขาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความยุติธรรมกับเขา” นายสาทิตย์กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า การโหวตใด ๆ ของเพื่อนสมาชิกเราคงไปบังคับอะไรกันไม่ได้เพราะเป็นเอกสิทธิ์โดยรัฐธรรมนูญ ตนจะโหวตอย่างไร เพื่อนสมาชิกจะโหวตอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ และเป็นความรับผิดชอบของแต่ละคน ในการลงคะแนนเสียงทั้งหลายนั้นถูกบันทึกเอาไว้เพราะฉะนั้นคนที่ลงก็จะต้องมีเหตุผลในการอธิบายต่อไปในอนาคตด้วย เป็นเรื่องของนิติบัญญัติโดยแท้ อย่าไปรวมความคิดเห็นอื่นเข้ามาในตัวร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย ดังนั้นจึงอยากจะลุกขึ้นแสดงความคิดความเห็นเอาไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยัน ไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุนมาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้วนั้น นายอนุทิน ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน แต่เมื่อถึงจุดที่เราต้องรักษาผลประโยชน์ […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]