นายกฯ ยันไม่เคยคิดปลูกผักชีหรือทำขนส่งแข่งกับใคร

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 21 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณเข้าร่วม CPTPP พร้อมยืนยันไม่เคยคิดปลูกผักชีหรือทำขนส่งแข่งกับใคร ชี้เป็นการเตรียมความพร้อมช่วยประชาชน ลั่นหากไม่มีรถขนส่งต้องแบกกระสอบเดินเอง


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “จับมือร่วมใจ พาไทยรอด” ภายในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ภายใต้หัวข้อ “Connect the Dost : Desing the Future รวมพลัง…สร้างสรรค์อนาคต” ตอนหนึ่งว่า ได้คุยกับประธานหอการค้า บอกไม่มีคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ มีแต่คนรุ่นใหญ่ ซึ่งงานวันนี้เป็นการรวมกันของคนทุกวัยทั่วประเทศ ตนยินดีและเป็นเกรียติที่ได้มาร่วมงานและถือเป็นการจับมือร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้นอกจากปัญหาสุขภาพ ยังมีปัญหาเรื่องการดำเนินชีวิตจากปัญหาเศรษฐกิจ จะทำอย่างไรให้สามารถแก้ปัญหาไปพร้อมๆกันโดยไม่กระทบอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ ตนได้รับทราบผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และผู้ประกอบการ ที่ผ่านมาก็ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการจัดสรรวัคซีนก็ได้เร่งดำเนินการ ขณะนี้มีวัคซีนแต่ติดปัญหาเรื่องการกระจายการฉีด พร้อมย้ำการฉีดวัคซีนมีความปลอดภัยและเข้าใจว่าการฉีดวัคซีนขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่ต้องไม่กระทบใครโดยเฉพาะการกระจายเชื้อ ดังนั้นจึงอยากให้ร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนออกมาฉีดวัคซีนให้ครบโดส อาจมีปัญหาข้างเคียงบ้าง แต่ทางแพทย์ได้อธิบายไปแล้ว ทุกวันนี้วัคซีนมีพร้อม บุคลากรมีพร้อม แต่ขาดคนที่จะออกมาฉีดวัคซีน


อีกทั้งในวันข้างหน้ายังต้องเตรียมพร้อมรับวัคซีนอื่นๆด้วย เพราะที่ผ่านมาแท้ไทยจะมีความพร้อมด้านสาธารณสุข แต่ทุกประเทศทั่วโลกไม่เคยเจอกับโควิด-19 มาก่อน ทั้งนี้ไทยใช้งบประมาณ 25% ของจีดีพี ในการแก้ไขปัญหาโควิด ซึ่งหลายประเทศนำแนวทางไปใช้เป็นต้นแบบ และยอมรับว่าเป็นงบประมาณที่สูง ในประกลุ่มประเทศที่ 2 รองจากชิลี ดังนั้นขอทุกคนอย่าประมาทแม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น

“รัฐบาลเริ่มผ่อนคลาย รัฐบาลไม่อยากจะปิด ไม่อยากจะกลั้นอะไร เรื่องสุขภาพเราต้องไปด้วยกัน ถ้าเศรษฐกิจและสุขภาพแย่ก็ต้องกลับไปล็อคดาวน์ แบบที่หลายประเทศก็เกิดขึ้นมาแล้ว เราต้องคำนึงถึงสถานการณ์หลายประเทศด้วย เพราะยังมีความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิจารณา ในนามรัฐบาลต้องดูด้วยว่า ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในภูมิภาคสถานการณ์เป็นอย่างไร และการแก้ไขปัญหาต่างๆอาจจะมีพันธสัญญาร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ขณะที่การแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม​ ปัญหาอุทกภัย​ หนี้ครัวเรือน​ ทุกเรื่องถูกบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อจะจัดสรรงบประมาณแก้ปัญหาให้ตรงประเด็น​ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน และอยากทุกกระทรวงทำงานด้วยบูรณาการกัน แต่การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ได้ต้องการที่จะยึดครองอำนาจ แต่เพื่อวางรากฐาน เป็นแผนพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ และได้เล่าถึงหลักการการบริหารประเทศในด้านต่างๆ ที่มีข้อจำกัดในหลายด้าน โดยระบุว่าขอเล่านานหน่อยเพราะสิ่งเหล่านี้อยู่ในศีรษะตนมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว


ส่วนในด้านการค้า-การลงทุน เช่น ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก CPTPP นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนยอมรับว่ามีข้อเสีย แต่ก็มีข้อดีด้วยเช่นกัน ที่ไทยต้องพิจารณารอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของไทย ดังนั้น ไทยจะต้องเข้าร่วมเจรจาข้อตกลงบางอย่างที่ยังไม่เป็นประโยชน์กับประเทศ เช่น เกษตร สาธารณสุข แต่ยืนยันว่าการเจรจาครั้งนี้ยังไม่ได้ตกลงเข้าร่วมในทันที

ส่วนเรื่อง 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือน ไม่ได้มุ่งหวังให้ข้าราชการคนใดไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน เพียงแต่ต้องการให้ข้าราชการลงพื้นที่พูดคุยเยี่ยมเยียนประชาชน รับทราบถึงปัญหา เพื่อที่จะนำมาแก้ไขให้ตรงจุด เกิดการเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งอย่างมีอารมณ์ถึงการแก้ไขปัญหาราคาผักแพงและเรื่องราคาน้ำมันดีเซล โดยยืนยันว่า “ที่สั่งให้ทหารปลูกผักชีไม่ได้ การแข่งขันกับใคร แต่ทหารปลูกอยู่แล้วเพื่อไว้รับประทานเอง เพราะมีที่ แต่หากประชาชนเดือดร้อนก็สามารถมาซื้อกับทหารได้ เช่นเดียวกับการเตรียมรถทหารไว้สำหรับการขนส่ง ในกรณีที่รถบรรทุกหยุดวิ่ง ตนไม่ได้ต้องการที่จะทำขนส่งแข่งกับใคร เพราะถ้าไม่มีรถวิ่งแล้วจะทำอย่างไร ก็แบกกระสอบเดินเองแล้วกัน และขออย่าเชื่อข้อมูลบิดเบือนมีอะไรก็ขอให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อน ตนไม่ได้ดีไปกว่าใคร และก็ไม่ได้คิดว่าเก่งไปกว่าใคร แต่ตนจะทำให้ดีที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตนยินดีที่จะรับฟังทุกเสียงสะท้อนและนำไปแก้ไขเพราะตนไม่ใช่คนดื้อ คนใจร้าย หรือคนเผด็จการ แต่ต้องอธิบายให้ได้ว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษมีเสียงไมค์โครโฟนช็อตเป็นระยะๆ ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องใช้เท้าเตะสายไฟอยู่หลายครั้งและพูดว่าต้องพูดไปเตะสายไฟไปก่อนจะพูดว่า “บริษัทไหนเนี่ย” ทำให้ผู้ร่วมประชุมหัวเราะกับคำพูดของนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบสมุดปกขาว จากนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นบทสรุปผู้บริหารการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 Connect the Dots Design the Future ที่ได้จัดลำดับความสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สำหรับดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ภายใน 99 วันแรกของการทำงานของคณะกรรมการหอการค้าไทย โดยมี 3 ภารกิจสำคัญ คือ เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ด้วย Digital Transformation เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และแก้ไขกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้สะดวก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : “คลิปเสียง” อาวุธทางการเมืองในกัมพูชา

กัมพูชา 19 มิ.ย. – กรณีคลิปเสียงที่นายฮุน เซน เปิดเผยออกมา หลายท่านคงสงสัยว่า เขาเคยใช้วิธีนี้กับใครอีกหรือไม่ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามการปล่อยคลิปเสียงในฐานะเครื่องมือทางการเมืองในกัมพูชา. – สำนักข่าวไทย

รทสช.มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติพรรคคุยนายกฯ ก่อน

รทสช. 19 มิ.ย.- “รวมไทยสร้างชาติ” ยังไม่เผยมติพรรค มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติคุยนายกฯ ก่อน หลังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเกือบ 2 ชม. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ เดินทางออกจากพรรค […]

มทภ.2 ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยน มุ่งป้องกันประเทศทุกวิถีทาง

นครราชสีมา 19 มิ.ย. – ท่วมท้น! กำลังใจหลั่งไหลสู่ “พล.ท.บุญสิน” และทหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทาง ขอให้ประชาชนไว้วางใจ ช่วงบ่ายวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา สถานศึกษาและบริษัทเอกชน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และส่งต่อธารน้ำใจไปยังทหารที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ยังนำข้อความจากใจของนักเรียนที่เขียนให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 มามอบให้ด้วย ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และบอกว่าจะรีบนำสิ่งของไปมอบให้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่ายบริหารก็แก้ปัญหาทางการเมือง ส่วนความมั่นคงของชาติ ทั้ง 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทางที่จะไม่ให้เสียดินแดน ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ สิ่งที่ตนพูดไปแล้วก็ตามนั้น. – สำนักข่าวไทย

“ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล มองเป็นการสนทนา “อา-หลาน”

พรรคชาติ​ไทย​พัฒนา​ 19​ มิ.ย.-“วราวุธ” ประกาศชัด “ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัว บอกช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ รัฐบาลต้องมีความมั่นคงทางอธิปไตย มองคลิปเสียงเป็นการสนทนาระหว่าง “อา-หลาน” แต่ไม่รู้เจตนาคนปล่อย ขอคุยนายกฯ ก่อนเสนอที่ประชุมพรรคเคาะอีกครั้ง นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา​ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ สส.​ของพรรค และประธานคณะกรรมการดำเนินงานของพรรค เกือบ 2 ชั่วโมง ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่าในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่าอธิปไตยของประเทศและความมั่นคงของประเทศคือสิ่งสำคัญที่สุดและไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง พรรคและสมาชิกพรรคจึงเห็นว่าควรสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงให้รัฐบาลทำให้เกิดความมั่นคงในอธิปไตยของประเทศ และได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนไปพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีแนวทางอย่างไร หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมและครบถ้วนแล้วจะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป นายวราวุธ ยืนยันชัดเจนว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เพราะความเข้มแข็งของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย เราได้ยินคลิปการพูดคุยสนทนา แต่ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว แน่นอนในโลกโซเชียลอาจจะบอกว่าชัดขนาดนี้แล้วจะคิดอะไรอยู่อีก แต่การตัดสินใจทำงานในรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศเราเอามาเสี่ยงไม่ได้การทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรคชาติไทยพัฒนามองว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อถามว่าจะให้รัฐบาลมากน้อยแค่ไหนนั้น นายวราวุธ กล่าวว่าทุกพรรคคงอยากจะหาทางออกให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุดเพราะความมั่นคงของประเทศไม่ควรตกอยู่ในความจำเสื่อม เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว เมื่อถามว่าการจับมือกับนายกฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายวรวุธ กล่าวว่า […]