แนะไทยต้องเปิดเจรจาเชิงรุก หากจะแก้ กม.ป้องกันฟอกเงิน

รัฐสภา 17 พ.ย.- “เกียรติ” แนะหากจะแก้ กม. ป้องกันการฟอกเงิน โดยอิง TIP Report ไทยต้องเปิดเจรจาเชิงรุก พร้อมขอหลักประกันความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย หากให้ ปปง. เป็นผู้พิจารณาเงินชดเชยผู้เสียหาย

(17 พ.ย. 64) นายเกียรติ สิทธีอมร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. โดยระบุว่า จากเอกสารหน้า 2-3 ได้ให้เหตุผลของการปรับปรุงไว้ 3 ข้อ


  • ข้อที่ 1 เรื่องคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหาย
  • ข้อที่ 2 การกำหนดการคุ้มครองสิทธิ์ ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
  • ข้อที่ 3 เป็นกระบวนการดำเนินการบังคับคดีทรัพย์สิน ถูกรวมเข้ากับทรัพย์สินอื่น เพื่อให้สอดคล้องกับสากล

ซึ่งในข้อ 3 ที่ระบุว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับสากล” นี้ ต้องขอสอบถามว่าได้มีการแก้ไขในประเด็นไหนบ้าง เนื่องจากไม่มีรายละเอียด เพียงแต่มีข้อมูลที่พาดพิงไปถึง TIP Report (Trafficking in Persons Report) ของสหรัฐอเมริกาปี 2562 ในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การแก้ไขคำนิยามที่ให้สามารถนำทรัพย์สินไปชดเชยผลกระทบทางอ้อมนั้น ตนเห็นด้วย ถูกต้อง ดีงาม ทำได้เลย แต่เมื่อไปอ้างอิงถึง TIP Report แล้วบอกว่าการปรับปรุงตรงนี้จะช่วยให้สถานการณ์ของประเทศไทยเกี่ยวกับ TIP Report ดีขึ้นนั้น ตนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันจะดีขึ้นและเกี่ยวข้องอย่างไร

ทั้งนี้นายเกียรติ กล่าวว่า ในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งประธานผู้แทนการค้าไทย ได้เดินทางไปที่วอชิงตันดีซี เพื่อไปเป็นผู้เจรจากับรัฐมนตรีช่วยว่าการของสหรัฐฯ ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่ต้องการเห็นประเทศไทยตกเป็นเบี้ยล่างในเรื่องการดำเนินการซึ่งเป็นมาตรการฝ่ายเดียวของประเทศใหญ่ประเทศมหาอำนาจ และไม่สอดคล้องกับกติกาสากล แม้จะสอดคล้องในหลักการ แต่การมีกฎหมายเฉพาะภายในเพื่อประเมินคนอื่นทั้งโลก โดยไม่ประเมินตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งในการพบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการของสหรัฐฯ ในครั้งนั้น ตนได้ตั้งคำถามว่า เหตุใดท่านไม่ประเมินสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นที่แอลเอ ที่ซานฟรานซิสโก ที่นิวยอร์ก ซึ่งเขาก็ตอบไม่ได้ และทราบดีว่าถ้าเรารู้เท่าทันเขา เรารู้จักที่จะไปเจรจากับเขา เขาก็ถอยเหมือนกัน หลังจากนั้นเกือบ 3 ปี ก็ไม่มีการยกประเด็นนี้ขึ้นมาอีก


ผมจึงมีข้อเสนอว่า ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเดินเกมเชิงรุก เรามีพรรคพวกในโลกนี้อีกหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก TIP Report เช่นกัน เราต้องไม่ตกเป็นเบี้ยล่างและต้องเจรจาเชิงรุก เพื่อผลักดันให้มีกติกาสากล ปฏิบัติเหมือนกันทุกประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย นอกจากนี้เมื่อไปดูหน้า 3-10 ต้องขอถามถึงหลักคิดในเรื่องการนำทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดไปชดใช้คืน ซึ่งจากรายงานได้มีการยกตัวอย่างจาก 4 ประเทศ ทั้งของไทย อเมริกา สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย แต่ไม่ได้อธิบายว่าเหตุใดประเทศไทยจึงเลือกแนวทางที่ให้อำนาจ ปปง. เป็นผู้พิจารณาความเสียหายและสัดส่วนความเสียหายเอง ในขณะที่สหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเรื่องของพยานหลักฐานที่จะต้องนำเสนอในชั้นศาล และศาลเป็นคนตัดสิน แต่ของเราไม่ได้ระบุว่า สำนักงาน ปปง. มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรบ้าง..?? แต่ใน 2 ประเทศดังกล่าวถึงนั้น ใช้ศาลยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา ซึ่งให้ความรู้สึกว่าผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมมากกว่าการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของ ปปง.

“ถ้าท่านเขียนหลักสักนิดนึง ผมอาจจะอคิดตามได้ แต่ในเอกสารไม่มีรายละเอียดอะไรเลย ก็ต้องเรียนถามว่าเราจะใช้หลักอะไรเพื่อให้กฎหมายที่เราปรับปรุงไป ในที่สุดแล้วสามารถนำความยุติธรรมมาสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฟอกเงินหรือคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการฟอกเงินได้อย่างเต็มที่” นายเกียรติกล่าวในที่สุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย