กรุงเทพฯ 15 พ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผยทิศทางเที่ยวไทยส่งสัญญาณดีหลังเปิดประเทศ ชาวไทย-ต่างชาติคึกคัก ยอดจองที่พักพุ่ง พลิกโฉมท่องเที่ยวแบบ New Normal ผ่านแคมเปญ Visit Thailand Year 2022
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามผลการเปิดประเทศอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวขยับตัวดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งแบบการยกเว้นการกักตัว (Test and Go) พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (Sandbox Programme) และต้องกักตัวณ สถานกักกัน (Alternative Quarantine) เฉลี่ยวันละ 2,000 – 3,000 คน ส่งผลดีกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงปลายปี ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ที่นักเดินทางทั่วโลกอยากจะเดินทางมาหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
“ขณะนี้นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกามีจำนวนมากที่สุด รองลงมาเป็นเยอรมนี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเกาหลี นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้กลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ เช่น กลุ่มอิสราเอล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว Visit Thailand Year 2022 ด้วยแนวคิด Amazing New Chapters ทั้ง 29 สำนักงานทั่วโลก คาดว่าปีนี้ ประเทศไทยจะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศ ททท.ได้เตรียมแคมเปญท่องเที่ยวที่ตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยทุกกลุ่ม เช่น UNSEEN New Series เที่ยววันธรรมดา เมืองรองต้องลอง ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Workation Thailand เที่ยวไปด้วย ทำงานไปด้วย และ Thailand Premium เป็นต้น โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิดเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม
“ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 859,871 คน ผู้ประกอบการ 5,941 ราย ยอดการจองโรงแรมที่พักสะสม 1,051,705 ห้อง ทำให้ยอดสะสมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส1-3 กว่า 9 ล้านคน มูลค่าสะสมรวมกว่า 4,225.1 ล้านบาท” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลจะสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ล่าสุดมีบริษัทนำเที่ยวที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,816 ราย บริษัททัวร์สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 741 ราย ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 3.3ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย.64) โดยประชาชนสามารถจองแพ็คเกจทัวร์ผ่านผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรง และใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 มกราคม 2565
“เชื่อมั่นว่าปลายปีนี้ถึงตลอดปีหน้า กำลังการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศจะกลับมา โดยททท.ตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของปี 2565 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวพลิกฟื้นกลับมากว่า 8.8 แสนล้านบาท มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 18 ล้านคน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 50,000 – 60,000 หมื่นบาท ขณะเดียวกันจะมีรายได้จากคนไทยเที่ยวในประเทศมาเสริมกว่า 160 ล้านคนต่อครั้ง จับจ่ายใช้สอยเฉลี่ย 4,000 บาทต่อคนต่อทริป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยมีทิศทางดีขึ้น จากการประกาศเดินหน้าเปิดประเทศภายใต้การบริหารของ นายกรัฐมนตรี ประเทศไทยสามารถดูแลเรื่องของเศรษฐกิจและสาธารณสุขควบคู่กันไปได้ ประชาชนปรับตัวอยู่กับโควิด-19 ใช้ชีวิตในรูปแบบ New Normal นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการพักผ่อนหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“มั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีจะมีความคึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดียึดมาตรการป้องกันตัวเองแบบ Universal Prevention รวมทั้งผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหารปฏิบัติตามข้อกำหนด COVID Free Setting อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และร่วมกันเดินหน้าพลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยวต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย