“พิธา” ลั่นแพ้กี่ครั้งไม่เป็นไร ขอชนะครั้งเดียวพอ

ขอนแก่น 16 ต.ค.- “พิธา” ระบุ แพ้กี่ครั้งไม่เป็นไร ขอชนะครั้งเดียวพอ แล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนไป พร้อมเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน


การประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 2 ของพรรคก้าวไกล ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ในช่วงบ่าย เป็นการปราศรัยและแสดงวิสัยทัศน์ ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 1 นายวีรนันท์ ฮวดศรี ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

โดยนายพิธา เริ่มการปราศัยหยอดคำหวาน “ไม่เจอกันตั้งนานสบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆ มาอีสานบ่อยครั้งก็รู้สึกดีใจผูกพันกับชาวอีสาน และมีความตั้งใจว่าจะเว้าอีสานให้ได้ในการปราศรัยครั้งหน้า” ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นหนี้บุญคุณภาคอีสานเป็นเบ้าหลอมความเป็นนักการเมืองของตน ตนแจ้งเกิดในฐานะนักการเมืองที่จ.สกลนคร เป็นครั้งแรก ทุกครั้งที่ตนมาอีสานต้องแสดงความผูกพันกับภาคอีสานเป็นพิเศษ ซึ่งการกลับมาในภาคอีสานในครั้งนี้มีเรื่องมากมายที่อยู่ในใจของตน


นายพิธา ระบุว่า ก้าวไกลสัญจรหลังปิดสภาฯครั้งนี้ ตนเดินทาง 3,000 กิโลเมตร ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 ของประเทศ แม้จะรู้สึกเหนื่อย แต่ก็หึกเหิม ไม่ใช่เรื่องของเหนื่อยกายเพราะการเดินทางตลอดเวลา แต่รู้สึกเหนื่อยใจต่อการบริหารวิกฤตโควิด-19 ของรัฐบาล เมื่อเปิดโรงเรียนไม่ได้เด็กจำนวนมาก ที่ไม่มีอาหารเช้าหรือนมกิน ในช่วงวัยที่เจริญเติบโต ตนในฐานะพรรคการเมืองและพ่อคนหนึ่งพอฟังแล้วก็ใจสลาย ขณะเดียวกันราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ รู้สึกเหนื่อยใจในการฟังวิธีการแก้ไขปัญหาปศุสัตว์ พร้อมกับยืนยันว่า จะไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แม้จะรู้สึกเหนื่อยใจใจขนาดไหน และพร้อมที่จะกลับเข้าไปทำงานเมื่อสภานั้นเปิดสมัยประชุม

ขณะที่วิถีก้าวไกลจะต้อง นำเทคโนโลยีเข้ามาใส่ทุกอย่างจะแก้ได้ทั้งหมด ประเทศไทยเหมือนต้องคำสาปทุกท่านพัฒนา นี่คือสิ่งที่พรรคการเมืองทุกพรรคพูด แต่สิ่งที่เป็นวิถีก้าวไกลทำให้ต่างจากภาคอื่น คือการที่รู้ว่าจะสร้างยูนิคอร์นให้กับประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งประเทศไทยกำลังติดช้าง คือระบบราชการรวมศูนย์ และเสือ คือระบอบปรสิตเสือนอนกินที่กัดกินประเทศไทยอยู่ พร้อมกับมองว่า การสร้างแอปพลิเคชันไม่ใช่เรื่องยาก แต่เรื่องยากคือต้องสู้กับนักรบราชการไทยที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ และต้องมองว่าต้องมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ต้องสู้กับเสือนอนกินใหม่ทุนผูกขาด นักการเมืองท้องถิ่นที่ผูกขาด อะไรที่ส่งต่อประเทศไทย เมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา จะไม่สามารถส่งต่อประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ ทั้งระบบเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งที่จะชนะระบบแบบนี้และการเลือกตั้งได้ ต้องมีทัศนคติอย่างราชสีห์ ที่แม้จะไม่ใหญ่เท่ากับช้างจะไม่เร็วที่สุดเท่ากับเสือจะไม่ฉลาดให้สุดเท่ากับลิง แต่มีทัศนคติที่สุภาพและเข้มแข็ง เข้าไปอยู่ในใจของประชาชนไม่ใช่เข้าไปอยู่ในหัวของประชาชน แต่เข้มแข็งพอที่จะขย้ำหัวใจของนักการเมืองที่เป็นศัตรูกับประชาชน และในที่สุดจนเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศใดได้

ส่วนการเดินทางไกล นายพิธา ระบุว่า การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งทุกคนคงทราบดี แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือการเดินทางไกลครั้งนี้ ไม่โดดเดี่ยว สำหรับตนการเดินทางทั่วประเทศไม่เคยเหงา ไม่ใช่การเดินทางของตนคนเดียว แต่เป็นการเดินทางของคนธรรมดาทุกคนที่ถูกกดขี่จากความอยุติธรรมในประเทศนี้ เป็นการเดินทางของคนธรรมดาที่มีความฝันความหวังหลากหลายแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญที่สุด คือ เมื่อเลือกเดินแล้วห้ามหยุดเดิน พักได้เหนื่อยได้ท้อได้แต่ห้ามหยุดเดิน และไม่มีครั้งไหน เวลาไหน เดินมาได้ไกลขนาดนี้ ระบบรัฐสภาไทยไม่เคยมีการพูดถึงหรืออภิปรายที่สั่นสะเทือน ขณะนี้การทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์แบบระยะยาวมาไกลแล้ว นี่คือการเข้าใจถึงปัญหา นี่คือวิธีแก้ไขแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจที่ต้องเติมให้กันและกันในการเดินทางในครั้งนี้ แพ้กี่ครั้งไม่เป็นไรขอชนะครั้งเดียวพอแล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนไป


ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมองคนเป็นคน มองประเทศเป็นประชาชน สวัสดิการเป็นหน้าที่ของรัฐ เป็นสิทธิที่ทุกคนจะต้องได้รับ และเชื่อในศักยภาพของคนทุกคน ต้องการให้คนหนุ่มสาววิ่งตามความฝันได้อย่างสบายใจ ให้คนรุ่นปู่ย่าตายายรู้สึกภูมิใจสบายใจที่เห็นความสำเร็จของรุ่นลูกรุ่นหลาน นี่คือประเทศที่ก้าวหน้า เชื่อหรือไม่ว่าประชาชนจะดีกว่านี้ ถ้านายกรัฐมนตรีชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายก ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในนามพรรคก้าวไกล

นอกจากนี้ นายวิโรจน์ นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล บางส่วนขึ้นปราศรัย ประกอบด้วย นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดขอนแก่น นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม และนางอรนุช ผลภิญโญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]