fbpx

ศบค.ปรับลดพื้นที่สีแดง-เคอร์ฟิว

ทำเนียบ วันนี้  ( 14 ต.ค.)   ศบค. ปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 23 จังหวัด  ปรับเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีสั่งตั้ง ศบค. ส่วนหน้า ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่ภาคใต้ เร่งบริหารจัดการการแพร่ระบาดแบบองค์รวม


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)  ครั้งที่ 16/2564 เห็นชอบปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 23 จังหวัด  ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน 23.00-03.00 น.  อย่างน้อย 15 วัน   สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้  ยังคงงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร    ขณะที่ สธ. เพิ่มสูตรการฉีดวัคซีน Sinovac + Pfizer และ Sinovac – Sinovac   กระตุ้นด้วย AstraZeneca และ AstraZeneca – AstraZeneca กระตุ้นด้วย Pfizer

นายธนกร วังบุญคงชนะ  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   เผยว่า นายกรัฐมนตรีเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  เริ่มจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น   โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรได้ถอดไทย  ออกจากรายชื่อประเทศกลุ่มสีแดง  ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม  ทำให้คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามที่สหราชอาณาจักรรับรองไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อโควิด-19  ก่อนเดินทางหรือกักตัวหลังเดินทางถึงสหราชอาณาจักร  ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนทำให้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ได้ผลดีขึ้นเป็นลำดับ  และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้


นายกรัฐมนตรี   ยังกล่าวถึงการแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เรื่องการออกมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่มีการกักตัว เฉพาะที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศ  ซึ่งจะเริ่มมาตรการนี้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป และจะเพิ่มจำนวนประเทศในระยะต่อไป  โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศที่อนุญาตให้ประชาชนของเขาเดินทางได้ โดยไม่มีเงื่อนไขมากนัก และสนับสนุนการประกอบอาชีพของประชาชนไทยในภาคการท่องเที่ยว การเดินทาง และภาคธุรกิจพักผ่อนหย่อนใจและบันเทิง  รวมถึงภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 จะมีการพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้  ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในโอกาสที่กำลังเข้าสู่เทศกาลปีใหม่

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้  นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญ  ติดตามการแพร่ระบาด  โดยสั่งการให้มีการพิจารณาจัดตั้ง ศบค. ส่วนหน้า ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง  เพื่อให้มีการบริหารจัดการในภาพรวม  รวมทั้งให้มีการตรวจด้วยชุดตรวจเร็ว ATK และให้มีการจัดสรรเวชภัณท์ และยา  โรงพยาบาลสนาม และระบบ HI ให้พร้อมและเหมาะสม  ขณะเดียวกันทุกหน่วยต้องช่วยกันสร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ปรับพฤติกรรม  ยึดหลักการดูแลตนเองด้วยรูปแบบใหม่ และ DMHTT

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ต้องมีมาตรการที่เหมาะสม ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เตรียมพร้อมรับมือกับเชื้อโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น  รวมถึงเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้  ให้กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ  โดยนายกรัฐมนตรียืนยันเจตนารมณ์ในการดูแลทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งคนไทย กลุ่มเด็ก นักเรียน นักศึกษา และชาวต่างประเทศในไทยได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 


สำหรับการกำหนดประเทศในการเข้าราชอาณาจักร แบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ จะใช้เกณฑ์ด้าน สาธารณสุข เกณฑ์ด้านเศรษฐกิจและสังคม ในการคัดเลือกประเทศ โดยจะมีการกำหนดระยะเวลา และประเทศเพื่อให้เกิดความปลอดภัย พิจารณาอย่างน้อย 20 อันดับแรกที่มีผลต่อเศรษฐกิจสูง  และมีเงื่อนไขที่สามารถเดินทางได้ โดยจะใช้เกณฑ์ด้านสาธารณสุขเข้ามาพิจารณาร่วม  ที่ประชุม ศบค. มีมติสำคัญ ดังนี้   1. เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้  พื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 23 จังหวัด   ขณะจังหวัดที่ไม่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว   ได้แก่ สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี อ่างทอง และลพบุรี นครราชสีมา แต่จังหวัดที่เพิ่มมาใหม่ ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช พื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด  พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด

ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่  สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด    ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เป็น 23.00 น. – 03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน    ปรับเวลาเปิดกิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ ตามกำหนด จาก 21.00 น. เป็น 22.00 น.  จัดการประชุม และจัดงานตามประเพณีนิยมได้ ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัด นิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรมได้  สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับไป – กลับ ได้

สำหรับทุกพื้นที่  ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ให้เปิด ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ที่เล่นรายบุคคล หรือแข่งเป็นคู่ได้ (ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ)   การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปรับเป็น 50, 100, 200, 300, 500 คน

ในส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ นั้น ที่ประชุม ศบค. ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย  กทม. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม นี้

และเห็นชอบให้จัดหายา Molnupiravir  จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา  โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์ นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินสำหรับการจัดซื้อยา ต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. เพิ่มจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว ระยะที่ 1 (1-30 พฤศจิกายน 64 ) จาก 10 จังหวัดเป็น 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ) กระบี่ (ทั้งจังหวัด) พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (เมือง) หนองคาย (เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบอ สังคม) อุดรธานี (เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง) ระยอง (เกาะเสม็ด) และ ตราด (เกาะช้าง)

ในช่วงท้ายก่อนเสร็จสิ้นการประชุม   นายกรัฐมนตรียังขอบคุณและชื่นชมในความสำเร็จของเจ้าหน้าที่  และบุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ปฏิบัติงานในส่วนงานอื่น ๆ ในการจัดหาและให้บริการฉีดวัคซีนได้เกินเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้เป็นอย่างมาก   โดยสามารถฉีดวัคซีนได้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากเดือนพฤษภาคม จนประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในสิบประเทศ ที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกหน่วยงานสร้างการรับรู้ สื่อสารให้ชัดเจน สิ่งสำคัญขระนี้ คือรัฐบาลต้องบริหารงานทั้งสองขา คือ ความปลอดภัยด้านสุขภาพ และการเดินหน้าเศรษฐกิจ ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่รัฐบาลก็ได้เตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งต้องขอบคุณภาคเอกชนและประชาชนที่ช่วยกัน ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพและคนไทยมีความมั่นคงด้านสุขภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด