กทม. 20 ก.ย.- “ไทยสร้างไทย” ไม่เห็นด้วย จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุเฉพาะคนจน ชี้ถ้าเป็นรัฐบาลจะจ่าย 3,000 บาทต่อเดือน
พรรคไทยสร้างไทย ออกแถลงการณ์ ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวจากสื่อมวลชนว่า คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (ใหม่) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 มีข้อหารือเรื่องการกำหนดจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยมีแนวโน้มว่าจะจ่ายเบี้ยยังชีพเฉพาะกลุ่มคนยากจน รวมทั้งมีข่าวว่าการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพเกิดการล่าช้านั้น พรรคไทยสร้างไทย ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากคนไทยทุกคนล้วนทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ในฐานะพลเมืองที่เสียภาษีให้กับรัฐ ทั้งทางตรงและทางอ้อม นับตั้งแต่แรกเกิด และอยู่มาจนอายุครบ 60 ปี ดังนั้นการจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุจึงไม่ได้เป็นการสงเคราะห์จากรัฐ หากแต่เป็นสิ่งที่รัฐพึงกระทำเพื่อตอบแทนคุณความดีที่คนไทยคนนั้นได้เสียภาษีให้กับรัฐบาลมาแล้วถึง 60 ปี
ยิ่งไปกว่านั้น ในการดำเนินการที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผิดนัดจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีอัตราเพียงเดือนละ 600-1,000 บาท ต่อเดือน ทางพรรคเห็นว่า นอกจากจะเป็นการทำลายกำลังซื้อของประชาชนอันเป็นหัวใจสำคัญของการบริโภคภายในแล้ว ยังจะทำให้ประชาชนและนักลงทุน ต่างไม่เชื่อมั่นในฐานะทางการคลังของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของประเทศในภาพรวมอีกด้วย
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุควรจ่ายให้กับผู้สูงอายุทุกคน ที่แจ้งความประสงค์อยากเข้าร่วมโครงการฯโดยเสมอภาค เพราะเป็นเงินที่มาจากภาษีอากรของประชาชนทุกคน อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายมีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน” ส่วนผู้สูงอายุรายใดที่มีฐานะทางเศรษฐกิจเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ โดยไม่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ ก็ต้องถือเป็นการเสียสละที่รัฐจะต้องยกย่อง และตอบแทนความคุณความดีในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมต่อไป
พรรคไทยสร้างไทย ระบุอีกว่า การดูแลผู้สูงอายุเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรค โดยหากได้เป็นรัฐบาล พรรคไทยสร้างไทยจะดำเนินนโยบาย “บำนาญประชาชน” โดยจะจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้พอยังชีพ เดือนละ 3,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอที่จะทำให้ผู้สูงอายุสามารถดำรงชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรี และไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
พรรคไทยสร้างไทย ถือว่า คนไทยทุกคนที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เป็นผู้ที่ได้กระทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ มาเป็นเวลาถึง 60 ปีแล้ว รัฐมีหน้าที่ต้องตอบแทนคุณความดีด้วย “บำนาญ” อันเป็นการให้เกียรติกับประชาชน เช่นเดียวกับข้าราชการที่ทำงานจนเกษียณ ไม่ใช่ด้วยการจ่าย “เบี้ยยังชีพ” ที่เสมือนการสงเคราะห์แก่ผู้ยากไร้ ดังเช่นที่รัฐบาลคิดจะดำเนินการอยู่.-สำนักข่าวไทย