ระวัง! มิจฉาชีพหลอกกู้เงินด่วนผ่านแอปฯ

ทำเนียบ 18 ก.ย.-เตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพหลอกให้กู้เงินด่วนผ่านแอปพลิเคชัน แนะตรวจสอบและใช้บริการกับสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตมีกฎหมายกำกับ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคให้กิจการ กิจกรรมบางส่วนทยอยกลับมาดำเนินการได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์รายได้และปัญหาหนี้สินของประชาชน เพราะแม้จะเริ่มกลับมาประกอบอาชีพหารายได้ได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งผลักดันมาตรช่วยแก้ไขหนี้ครัวเรือน รวมถึงดูแลปราบปรามมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ ที่ฉวยโอกาสหลอกลวงในช่วงที่ประชาชนเดือนร้อนด้วย


ทั้งนี้ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เศรษฐกิจกิจไม่คล่องตัว และประชาชนมีความจำเป็นในการกู้เงินมาหมุนเวียนในครัวเรือน ได้ปรากฏกรณีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆจำนวนมาก ล่าสุดพบการปล่อยสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน โดยมีการส่งข้อความโฆษณาตรงไปยังโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านโชเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ผู้ต้องการกู้เงินโหลดแอปพลิเคชัน พร้อมยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ติดตามหนี้ และเอาเปรียบผู้กู้ในรูปแบบสารพัด ทั้งการหักเงินค่าดำเนินการสูง ให้เงินกู้ไม่เต็มตามสัญญากู้ คิดดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดหลายเท่า ทวงถามด้วยวิธีทั้งข่มขู่ ทำให้อับอาย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากจำเป็นต้องใช้บริการเงินกู้ เงินด่วนต่างๆ ขอให้ประชาชนตรวจสอบผู้ให้กู้อย่างรอบคอบรู้ตัวตน รู้ที่ทำการ ทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ควรเลือกผู้ให้กู้ที่เป็นสถาบันการเงินทั้งธนาคารพาณิชย์หรือนอนแบงก์ที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการคลัง และมีกฎหมายกำกับที่ชัดเจน เพื่อกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้นสามารถร้องเรียน หาผู้กระทำผิดเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายได้


ในส่วนผู้ให้กู้หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการกระทำผิดก็ต้องรับโทษหนัก เพราะปัจจุบันในการให้กู้ยืมเงินมีกฎหมายกำกับหลายฉบับและมีโทษทางอาญา เช่น พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับได้

“ปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปมาก มิจฉาชีพได้ก็เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้น โดยส่งข้อมูลผ่านทั้งโทรศัพท์ โซเชียลมีเดีย ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กวดขันไม่ให้เกิดการเอาเปรียบประชาชนในช่วงที่ยากลำบาก โดยหากพบการทำผิดขอให้มีการลงโทษอย่างเด็ดขาด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง